วสท. เตรียมเจาะอาคารถล่มช่วยผู้รอดชีวิต หลังพบสัญญาณชีพ 1 ราย – มีรายงานพบผู้ติดค้างอีก 4 ราย เสียชีวิตแล้ว 3
นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย พร้อมเจ้าหน้าที่ เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุอาคารถล่ม ภายในหมู่บ้านกฤษดานคร 31 ถ.บรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ เพื่อเร่งกู้ร่างผู้เสียชีวิตและผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในอีก 4 ราย
โดยนายธเนศ เปิดเผยว่า จากสภาพของโครงสร้างที่พังลงมาแบบนี้ ต้องตรวจสอบว่าจุดไหนที่โครงสร้างเสถียรพอที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะเข้าไปช่วยนำร่างผู้ติดค้างออกมาซึ่งขณะนี้ตัวอาคารได้สร้างเสถียรภาพชั่วคราว เราต้องไม่ทำให้เกิดการเสียเสถียรภาพเดิมเช่นการโกยเอาดินออกมา ซึ่งนี่เป็นจุดที่ วสท. จะเข้ามาช่วยดู แต่เรายังใสันนิษฐานว่าอาจมีสัญญญาณชีพอยู่จุดหนึ่ง จากที่เราตรวจสอบเมื่อสักครู่โดยใช้เครื่องตรวจสอบความสั่นสะเทือน เราสันนิษฐานว่ายังมีผู้รอดชีวิตอยู่
นายก วสท. กล่าวอีกว่า สิ่งที่เรามุ่งเป้าขณะนี้คือการเข้าไปช่วยเหลือผู้ติดค้างภายใน โดยไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก วิธีเบื้องต้นจะเจาะแบบเบาเข้าจากด้านซึ่งตำแหน่งเจาะจะต้องเลือกจุดที่ทีมีเสถียรภาพ และโครงสร้างต้องไม่ได้รับการสั่นสะเทือนจนเกิดการเคลื่อนตัวซ้ำ ก่อนส่องกลัองลงไปเพื่อยืนยันสัญญาณชีพนั้น
นายธเนศ ระบุด้วยว่า ปกติเวลาเพลิงไหม้ ไม่ว่ากี่องศา หากเหล็กไม่หลุดออกจากกัน ก็ไม่ถึงขนาดที่จะทำให้ชิ้นส่วนแยก แต่เท่าที่ทราบมาพบว่าอาคารนี้มีความร้อนประมาณ 70 องศา จึงมีการพรมน้ำเป็นระยะ แต่อาจทำให้เลื่อนไหลได้ จึงตั้งกลัองเช็คการเลื่อนไหลอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออก และหากบ้านรอบข้างมีความอันตรายจะแจ้งให้ออกจากพื้นที่ชั่วคราว
เบื้องต้น มีรายงานว่าขณะนี้ยังมีร่างที่ติดค้างอยู่ภายในอีก 4 คน เสียชีวิตแล้ว 3 คน แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย 2 คน และผู้พักอาศัย 1 คน ทราบชื่อคือ นายเกียรติ แพตเตอร์สัน โดยเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำก่อนอาคารถล่ม และพบสัญญาณชีพที่คาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีก 1 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อาลัย “ต้น สยามนนท์” ฮีโร่นักดับเพลิง
- ผู้ว่าฯอัศวินเสียใจเหตุไฟไหม้บ้านถล่มทับกู้ภัยดับ
- เร่งช่วยคนติดใต้ซากบ้านถล่ม-ผู้ว่าฯอัศวินรุดตรวจ
- ไฟไหม้บ้านถล่มทับกู้ภัยดับแล้ว3ติดในซากอีกนับ10
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news