ราชทัณฑ์ เผย รุ้ง ปนัสยา ขออดอาหาร 3 วัน ด้าน “เพนกวิน” แพทย์แจ้งเปลี่ยนแผนการให้สารน้ำทางเลือด อาการทั่วไปปกติ
นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกระแสข่าวการอดอาหารประท้วงของ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ที่ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลางนั้น กรมราชทัณฑ์ ได้รับการแจ้งจาก น.ส.ปนัสยา ว่ามีความต้องการอดอาหารทุกมื้อ ภายหลังจากที่ได้อดอาหารมื้อเย็นเป็นเวลา 3 วัน โดยของดอาหารประเภทข้าวและกับข้าวทุกชนิด ยกเว้น นมและเครื่องดื่มประเภทน้ำหวานต่างๆ และจะปฏิบัติต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้ (3 เมษายน 2564) จนถึงวันที่ออกพบทนายความอีกครั้ง ในวันที่ 5 เมษายน 2564 ซึ่งเจ้าหน้าที่พยาบาล ก็จะทำการดูแลให้เกลือแร่ และให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ด้าน การอดอาหารของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นายธวัชชัยฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 2 เมษายน 2564 เวลา 09.30 น. ผู้อำนวยการสถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยแพทย์ห้วงเวลา และเจ้าหน้าที่พยาบาลได้เข้าตรวจเยี่ยมติดตามอาการ ของนายพริษฐ์ฯ พบว่าผู้ป่วยรู้สึกตัวดี มีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย โดยเจ้าตัวยังคงปฏิเสธการรับประทานอาหาร จึงยังให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำและดื่มเกลือแร่ทดแทน ในส่วนผื่นคันบริเวณหน้าอกและผื่นที่หลังดีขึ้น และแพทย์ห้วงเวลาได้สั่งเพิ่มการรักษาให้สารน้ำทดแทนทางหลอดเลือดดำเป็นชนิด 5%DNSS/2 1,000 ml. และ VitBco 1 amp IV 80 ml/hr และให้ lorazepam 0.5 mg. รับประทานก่อนนอนหากนอนไม่หลับ ซึ่งในเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่พยาบาลได้เข้าตรวจเยี่ยมติดตามอาการ โดยได้ดูแลเปลี่ยนบริเวณที่ให้สารน้ำตามแผนการรักษาตามที่แพทย์ห้วงเวลาแจ้ง และนายพริษฐ์ฯ ได้ยินยอมให้ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งพบปริมาณน้ำตาลในเลือด 88 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ในวันนี้ (3 เมษายน 2564) เวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่พยาบาลได้เข้าตรวจเยี่ยมติดตามอาการ ของนายพริษฐ์ฯ และให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำชนิด 5%DNSS/2 1,000 ml. และ VitBco 2 amp IV 80 ml/hr ตามแผนการรักษา ไม่พบภาวะแทรกซ้อนจากการให้สารน้ำแต่ประการใด จากการตรวจทั่วไป น้ำหนัก 102 กิโลกรัม สัญญาณชีพโดยทั่วไปปกติ อุณหภูมิร่างกาย 36.7 องศาเซลเซียส อัตราเต้นของหัวใจ 68 ครั้งต่อนาที อัตราการหายใจ 18 ครั้ง/นาที ความดันโลหิต 105/64 มิลลิเมตรปรอท ผื่นคันบริเวณหน้าอกและผื่นที่หลังดีขึ้น และไม่พบอาการแทรกซ้อนอื่นใดจากการอดอาหาร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news