Home
|
อาชญากรรม

ชาวประมง ฟ้องเเพ่ง เรียกพันล้าน เดือดร้อนปลาหมอคางดำ

Featured Image

 

 

 

เริ่มแล้ว! กลุ่มชาวประมงเดือดร้อนปลาหมอคางดำยื่นฟ้องเเพ่ง เรียกค่าเสียหายเอกชน หลายพันล้านบาท

 

 

 

วันนี้ ( 5 ก.ย.67) ที่ศาลเเพ่งกรุงเทพใต้ นายปัญญา โตกทอง อายุ 66 ปี สมาชิกเครือข่ายรักษ์อ่าวไทยตอนบน และเครือข่ายประชาคมคนรักแม่กลอง พร้อมชาวบ้านกลุ่มผู้ประกอบอาชีพประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และประมงพื้นบ้าน ในเขตอําเภออัมพวา อําเภอบางคนที และอําเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ที่เป็นตัวแทนชาวบ้าน กว่า 1,400 คน ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของปลาหมอคางดำ เดินทางมายังศาลแพ่งกรุงเทพใต้ พร้อมด้วยคณะทำงานสิ่งแวดล้อม จากสภาทนายความฯ เพื่อยื่นฟ้องบริษัทเอกชนผู้ก่อมลพิษ และกรรมการบริหารรวม 9 คน ในคดีสิ่งแวดล้อม

 

นายปัญญา กล่าวว่า พวกตนได้รับผลกระทบ และถูกละเมิดสิทธิ์มานาน การประกอบอาชีพย่ำแย่ ขาดรายได้ มีหนี้สิน เพราะสัตว์น้ำที่เพาะเลี้ยง ทั้ง ปลา กุ้ง ไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้ซึ่งตอนนี้ในบ่อที่เลี้ยงมีแต่ปลาหมอคางดำ

 

และตั้งแต่ที่ตนเองและกลุ่มสมาชิก พบปลาหมอคางดำตั้งแต่ปี 2555 แต่ที่รุนแรงช่วงปี 2559-2560 ซึ่งตนเองและกลุ่มสมาชิกก็ได้ ไปร้องเรียนมาหลายที่แล้ว ทั้งนายกรัฐมนตรี กรรมการสิทธิมนุษยชน ก็แล้วก็ยังไม่มีการดำเนินการอะไร จากตอนแรกแค่ในจังหวัดตนเอง แต่ตอนนี่แพร่ไปในหลายจังหวัดทั่งประเทศแล้ว รวมถึงรัฐก็ไม่ได้เข้ามาดูแลเยียวยาพวกตน และในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่มาร้องศาลแพ่งให้ช่วยเหลือในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทเอกชนผู้ก่อมลพิษ

 

ซึ่งขั้นตอนการดำเนินคดีจะเป็นการฟ้องคดีแบบกลุ่ม เรียกค่าสินไหมทดแทนจากการ ขาดรายได้ในอาชีพประมงเพาะเลี้ยงและประมงพื้นบ้าน และจากการถูกละเมิดสิทธิในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมทั้งมีคําขอบังคับให้บริษัทเอกชนผู้ก่อมลพิษ แก้ไขฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติที่สูญเสียไปให้กลับสู่สภาพเดิม

 

สำหรับจํานวนค่าสินไหมทดแทนที่กลุ่มประมงเรียกร้อง แยกออกเป็น 2 กลุ่ม

 

1.กลุ่มประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เรียกค่าเสียหายจากการขาดรายได้ตามจํานวนพื้นที่ที่เพาะเลี้ยงในอัตราไร่ละ 10,000 บาทต่อปี เป็นเวลา 7 ปี (พ.ศ. 2560 – 2567) และค่าเสียหายจากการถูกละเมิดสิทธิ์การใช้ ประโยชน์จากทรัพยากรอีกรายละ 50,000 บาท โดยกลุ่มประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมีจํานวนสมาชิกกว่า1,000 ราย มีพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำรวมกันกว่า 27,000 ไร่ ค่าสินไหมทดแทนที่เรียกร้องเป็นเงินกว่า 1,982,000,000 บาท

 

2. กลุ่มประมงพื้นบ้าน เรียกค่าเสียหายจากการขาดรายได้ตามจํานวนวันในอัตราวันละ 500 บาท (ปีละ 182,500 บาท) เป็นเวลา 7 ปี (พ.ศ. 2560 – 2567) และค่าเสียหายจากการถูกละเมิดสิทธิการใช้ประโยชน์ จากทรัพยากรอีกรายละ 50,000 บาท โดยกลุ่มประมงพื้นบ้านมีจํานวนสมาชิกกว่า 380 ราย ค่าสินไหมทดแทนที่ เรียกร้องเป็นเงินกว่า 19,000,000 บาท รวมเป็นเงินค่าสินไหมทดแทนที่ในเขตจังหวัดสมุทรสงครามเป็นเงินกว่า 2,486,450,000 บาท

 

นอกจากฟ้องร้องคดีแพ่ง เพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทน ช่วงเช้าวันนี้ ตัวแทนจากสภาทนายความ ในฐานะผู้ได้รับมอบอำนาจจากผู้ประกอบอาชีพประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและอาชีพ ประมงพื้นบ้าน จังหวัดสมุทรสงครามจำนวน 54 คน ก็จะยื่นฟ้องหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ 18 หน่วยงาน ต่อศาลปกครองกลาง ฐานความผิดละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ อาทิ .กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ,กระทรวงมหาดไทย ,กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น

 

ซึ่งผู้ฟ้องคดีต่อศาลปกครองทั้ง 54 คน ได้เรียกร้องให้ผู้ถูกฟ้องซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐเร่งประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติเพื่อนำเงินฉุกเฉินเยียวยาต่อผู้ฟ้องตามเวลาที่ศาลกำหนด นอกจากนี้ให้ผู้ถูกฟ้องติดตามเงินจาก บริษัทเอกชน ผู้ก่อให้เกิดผลกระทบ ชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐตามมูลค่าความเสียหาย

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube