พบศพสาวชาวเมียนมา ถูกฆ่าหมกภายในหอพักย่านบางขุนเทียน คาดผู้ต้องสงสัยคือสามีใหม่ ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดติดตามเส้นทางหลบหนี พร้อมขอหมายจับวันนี้
ตำรวจนครบาลบางขุนเทียน ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตอยู่ในห้องพัก ภายในซอยเอกชัย 83/1 เขตบางบอน กรุงเทพ ที่เกิดเหตุพบศพนางซูตาง ดางงุย ชาวเมียนมา ถูกทำร้ายเสียชีวิตภายในห้อง ใกล้กันยังพบค้อนมีร่องรอยคราบเลือด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 วัน จากการตรวจสอบพบที่เกิดเหตุเป็นหอพักสูง 7 ชั้น ปลูกติดกันหลายตึก ผู้พักส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา ขณะเดียวกันยังพบว่าสามีของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นชาวเมียนมา ได้หายตัวไปพร้อมกับสุนัขอีก 1 ตัว
จากการสำรวจพบว่าห้องเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 3 เจ้าหน้าที่ได้กั้นเชือกไว้ โดยนางบุญชู ซึ่งเป็นเพื่อนข้างห้อง เล่าว่าตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ตัวเองได้กลิ่นเหม็นเน่าออกมาจากห้องของผู้เสียชีวิต ซึ่งตอนแรกคิดว่าสุนัขที่ผู้เสียชีวิตเลี้ยงไว้ตาย จึงแจ้งเจ้าของหอเข้ามาตรวจสอบกระทั่งพบร่างของนางซูตาง
โดยย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ประมาณ 4-5 วัน ตัวเองได้ยินนางซูตาง กับ สามี ทะเลาะกันช่วงเวลาประมาณ 21.00 ก่อนจะเงียบเสียงไป จากนั้นตัวเองก็ไม่เห็นหน้าสามี และ สุนัขที่เลี้ยงไว้อีกเลย โดยผู้เสียชีวิตและสามี ทำงานที่โรงงานกุ้ง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร สำหรับสามีผู้ก่อเหตุพบว่าคือนายทุน ทุน เมี๊ยะ มีพฤติกรรมชอบดื่มเหล้า และถูกผู้เสียชีวิตต่อว่าเป็นประจำ
ขณะที่หลานชายของผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตัวเองไม่ทราบว่าผู้ตายมีแฟนใหม่ โดยอดีตสามีของผู้ตายเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา สาเหตุมาจากการชอบดื่มสุราเช่นเดียวกัน ส่วนอุปนิสัยของผู้ตายพบว่าเป็นคนขี้บ่นอารมณ์ร้อน ซึ่งตัวเองไม่ได้เจอกับผู้ตายมาเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้ว และขณะนั้นผู้ตายยังไม่ได้มีแฟนใหม่
เบื้องต้นตัวเองไม่อยากพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็มองว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายรุนแรงเกินไป เพราะหากเกิดปัญหาส่วนตัวก็อยากให้มีการพูดคุยกันมากกว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน ได้ประชุมติดตามความคืบหน้าคดี พร้อมไล่เส้นทางการหลบหนีของผู้ต้องสงสัย และจะขอศาลออกหมายจับภายในวันนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
