หญิงวัย70ขับรถตกหลุมจุดก่อสร้างรถเกือบมิดคัน
หญิงวัย70 ขับรถตกหลุม แนว ก่อสร้าง โครงการวางท่อประปา ยันไร้สัญลักษณ์เตือน มั่นใจยังขับรถได้ปกติ ฟากบริษัทรับเหมาพร้อมชดใช้ค่าเสียหาย
ทีมข่าวลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุรถยนต์เก๋งสีขาว ตกลงบ่อน้ำ ในแนว ก่อสร้าง โครงการวางท่อประปา ใกล้ อุโมงค์ลอดแยกรัชดา-ท่าพระ พื้นที่ สน.ตลาดพลู
โดย ร.ต.อ.ไพจิต อูปแก้ว รอง สว.จราจร สน.ตลาดพลู กล่าวว่า ตำรวจได้เชิญผู้รับเหมาเข้ามาสอบปากคำในประเด็นเรื่องแนวกั้น แบริเออร์ ป้ายสัญญาณไฟ สัญญาณจราจร และป้ายเตือนแนวก่อสร้าง รวมทั้งแสงสว่างในจุดดังกล่าว ว่า มีความเพียงพอหรือไม่ เนื่องจากโครงการก่อสร้างบนถนนสาธารณะ จะต้องตรงตามมาตรฐาน ไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายและบาดเจ็บ
โดยตามกำหนดการ มีรายงานว่าโครงการก่อสร้างดังกล่าว จะแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบคืนพื้นผิวจราจรภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ ขณะที่ช่างรับเหมาไฟฟ้า เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทราบว่า งานก่อสร้างท่อประปาในเวลากลางคืน มีการเตรียมทรายมาถมอุโมงค์ หลังงานแล้วเสร็จบางส่วน แต่เจ้าหน้าที่อาจเผลอยกแผงเหล็กกั้นออก เพื่อให้รถขนทรายขับเข้ามา และลืมนำแผงเหล็กกั้นมาปิด ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถยนต์คันดังกล่าวขับมาพอดี จึงเกิดอุบัติเหตุ เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้หากมีแผงเหล็กแล้วรถยนต์ของประชาชนทั่วไปจะเกิดอุบัติเหตุในจุดดังกล่าว
ด้าน นางเขมกร ก้องธนานนท์ อายุ 70 ปี ผู้เสียหายยังคงอยู่ในอาการตกใจ พร้อมกับยืนยันว่า แม้ตนจะอายุ 70 ปี ก็ยังสามารถขับรถได้ ไม่มีอาการหลงลืม เนื่องจากขับรถมา นานกว่า 30 ปี ยืนยันว่าโครงการก่อสร้างดังกล่าว ไม่มีสัญลักษณ์แจ้งเตือนการก่อสร้าง และแสงสว่างไม่เพียงพอ จึงเป็นต้นเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้
ส่วนตัวมีอาการเจ็บที่หน้าอก เอว และขาซึ่งงานก่อสร้างดังกล่าวช่วงกลางคืน มักจะเปลี่ยนจุดก่อสร้างบ่อยครั้ง อาจทำให้รถใช้ถนนเกิดความสับสนได้ ส่วนด้านคดีความ ขณะนี้แจ้งตำรวจ สน.ตลาดพลู แล้วเบื้องต้น ทราบว่า บริษัทผู้รับเหมายินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายและยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมเรียกร้องให้ผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่ใช้พื้นที่บนถนนทั่วประเทศเพิ่มความระมัดระวัง และความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน และเจ้าหน้าที่ควรใส่ใจในมาตรฐานของการก่อสร้างด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news