เลขาฯ ป.ป.ส. แถลงผลสกัดกั้นยาเสพติดข้ามชาติยึดเฮโรอีน 440 แท่ง จับผู้ต้องหา 3 คนพร้อมผู้สั่งการ
วันนี้(23 ต.ค. 67) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมตัวแทนจากภาคีเครือข่ายทางทหารทั้งทัพบก ทัพเรือ และทัพอากาศ ร่วมกันแถลงผลการสกัดกั้นแก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติพร้อมจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ยึดเฮโรอีน 440 แท่ง
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติตรวจยึดไอซ์ 300 กิโลกรัม ในพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เตรียมลําเลียงลงไปยังภาคใต้เพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สาม
จึงสั่งการให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด ให้ติดตามขยายผลจนกระทั้งสืบสวนจนทราบว่าขบวนลำเลียงยาเสพติดได้ใช้รถตู้นำเที่ยวซุกซ่อนยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือมุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ภาคกลางจึงประสานภาคีเครือข่ายร่วมปฏิบัติการสืบสวนและติดตาม กระทั่งวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการตรวจพบรถตู้เป้าหมายที่สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นพื้นที่จ.ชัยนาท จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น
จากการตรวจค้นพบของกลางยาเสพติดเป็นเฮโรอีน 154 กิโลกรัม จํานวน 440 แท่ง พร้อมจับกุมผู้ต้องหา2 ราย ซึ่งเป็นคนขับรถตู้ที่ใช้ขนยาเสพติดดังกล่าว จากนั้นขยายผลจนสามารถจับกุมผู้สั่งการได้อีก 1 คน ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เป็นหญิงอายุ 63 ปี พร้อมตรวจคันที่พักอาศัยและโกดังรวม 3 แห่ง แต่ไม่พบยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย เบื้องต้นตรวจยึดทรัพย์สินได้แก่ รถยนต์ 10 คัน เงินสด ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ พระเครื่อง โฉนดที่ดิน รวมมูลค่าประมาณ 7.6 ล้านบาท
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่า เฮโรอีนดังกล่าวเตรียมลำเลียงไปส่งให้บุคคลในเครือข่าย เพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ นายปฤณ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด ได้เข้าร่วมประชุมกับกรมกระทรวงยุติธรรมไต้หวันโดยมีข้อมูลว่าเครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวไต้หวันได้สั่งเฮโรอีนกว่า 100 กิโลกรัม จากไทยเตรียมลักลอบนำเข้าไต้หวันในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2567 จึงเป็นการสกัดกั้นยาเสพติดก่อนที่จะถูกลักลอบส่งไปยังประเทศที่สามโดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
