Home
|
อาชญากรรม

บก.จร.ชี้แจงเก็บค่าปรับผู้ประกาศข่าวดังบนทางด่วน

Featured Image

 

 

 

ตำรวจจราจร แจงแล้ว หลังผู้ประกาศข่าวดังโพสต์ถูกตำรวจเรียกปรับบนทางด่วน ยัดข้อหากำหนดตัวเลขตรวจจับความเร็ว

 

 

 

 

กองบังคับการตำรวจจราจร หรือ บก.จร.ชี้แจง กรณีโลกออนไลน์แชร์ข้อความของ ผู้ประกาศข่าวคนหนึ่ง เล่าถึงเหตุการณ์ขณะขับรถบนดอนเมืองโทลล์เวย์ และถูกตำรวจเรียกเก็บค่าปรับ โดยมีข้อความกล่าวอ้างว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสร้างหลักฐานความเร็วรถเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และจับกุมในข้อหาใบอนุญาตขับรถหมดอายุ บก.จร.

 

ชี้แจง เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 67 เวลา 10.00-12.00 น. บนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ (ขาออก) บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางอนุสรณ์สถาน ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ ได้ตรวจพบรถยนต์ตามที่ปรากฎในสื่อฯ ขับขี่ด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ด้วยเครื่องมือตรวจจับความเร็วรถ

 

โดยตรวจวัดความเร็วได้เกินกว่าที่ตั้งค่าไว้(120กม./ชม.) จึงเรียกให้หยุดรถ และขอให้ผู้ขับขี่ฯ แสดงใบอนุญาตขับรถ พร้อมแจ้งว่าขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีการพูดคุพูดคุยขอดูหลักฐานเกี่ยวกับความเร็วรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้วิทยุสื่อสารเพื่อขอภาพหลักฐานการตรวจจับความเร็ว

 

และได้รับภาพจากชุดเครื่องมือตรวจจับความเร็วเป็น 3 ระยะ มี ความเร็ว 123 กม/ชม. , ความเร็ว 121 กม/ชม. และความเร็ว 118 กม/ชม. (ลักษณะขณะตรวจจับฯรถยนต์ได้ลดความเร็วลง) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พิจารณาการขับขี่รถจากภาพเคลื่อนไหวของกล้องวงจรปิด พบว่า

ผู้ขับขี่ฯ ขับรถมาในลักษณะปกติในช่องทางด้านซ้าย ลักษณะลดความเร็วลงขณะตรวจจับฯ จึงพิจารณา ว่ากล่าวตักเตือน และแนะนำให้ผู้ขับขี่ ขับรถตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบว่า ใบอนุญาตขับขี่ของผู้ขับขี่ หมดอายุแล้ว

 

จึงแจ้งข้อหา ขับรถเมื่อใบอนุญาตขับขี่สิ้นอายุ ตามใบสั่งจราจรอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 31 ต.ค.67 ผู้ขับขี่ยินยอมและชำระค่าปรับ ด้วยการสแกน QR Code เงินค่าปรับ เข้าสู่ระบบ PTM พร้อมยืนยันเครื่องมือตรวจจับความเร็วรถฯ เป็นของทางราชการ การประมวลผลและแสดงค่าความเร็วของรถ ผ่านทางหน้าจอ ไม่สามารถ แก้ไข/เปลี่ยนแปลง ตัวเลขค่าความเร็วได้

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube