Home
|
อาชญากรรม

“ชัชชาติ” เร่งแก้ปัญหาจราจรหวังลดอุบัติเหตุบนท้องถนน

Featured Image

 

 

 

กทม. เร่งแก้ปัญหาการจราจร สร้างวินัย และปรับพฤติกรรมการขับขี่ หวังลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตบนท้องถนน

 

 

 

วานนี้ (4 พ.ย. 67) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมพิธีเปิดงานสัมมนา “Safety Road in Southeast Asia: Issues and Prospects” ณ สมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพฯ (Alliance Fran?aise Bangkok) เขตปทุมวัน พร้อมร่วมให้การต้อนรับนายฌอง ทอดต์ ทูตพิเศษแห่งสหประชาชาติด้านความปลอดภัยทางถนน

 

 

โดยผู้ว่าฯ กทม. ได้กล่าวถึงแผนดำเนินการของกรุงเทพมหานครที่มีเป้าหมายลดความเร็วของผู้ขับขี่ในกรุงเทพฯจาก 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็น 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตบนท้องถนน

 

นอกจากนี้กรุงเทพมหานครยังดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาฐานข้อมูลดิจิทัลพื้นที่จุดเสี่ยงความปลอดภัย เพิ่มจำนวนและยกระดับคุณภาพกล้องวงจรปิด (CCTV) ในเดือนตุลาคมเพียงเดือนเดียวสามารถบันทึกการละเมิดกฎจราจรได้ถึง 43,000 ครั้ง การเปลี่ยนไฟถนน 100,000 ดวง เป็นไฟ LED เพื่อให้การมองเห็นดีขึ้น โดยคาดว่าจะเปลี่ยนเพิ่มเป็น 200,000 ดวงภายในอีก 2 ปีข้างหน้า อีกทั้งยังมีการปรับปรุงด้านกายภาพ เช่น การเร่งปรับปรุงทางม้าลาย สัญญาณไฟจราจร โดยดำเนินการแล้วกว่า 300 จุด พร้อมทั้งยังบูรณาการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

 

 

ด้านนายฌอง ทอดต์ กล่าวถึงข้อมูลทางสถิติซึ่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลกรองจากทวีปแอฟริกา พร้อมระบุว่า 40% ของอุบัติเหตุทางถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์และผู้ขับขี่ ที่ไม่สวมหมวกกันน็อก ด้วยเหตุนี้ สหประชาชาติจึงได้ตั้งเป้าหมายในการลดจำนวนผู้เสียชีวิตบนท้องถนนทั่วโลกที่มีอยู่ปีละ 1.2 ล้านคน และการจะบรรลุเป้าหมายนี้จำเป็นต้องมีระบบที่ครอบคลุม เช่น ข้อกำหนดความเร็วที่เข้มงวดขึ้น การขยายระบบขนส่งสาธารณะ การให้ความรู้แก่ประชาชน การใช้หมวกกันน็อก ฯลฯ

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube