ตำรวจปคม. บุกค้นพื้นที่เป้าหมาย 5 จุด จับกุมกลุ่มผู้ต้องหาแอบอ้างเป็นบริษัทจัดหางานส่งแรงงานไทยทำงานในประเทศนิวซีแลนด์และเกาหลีใต้แต่ไม่สามารถดำเนินการได้จริง
วันนี้ (4 ธ.ค 67) เวลา 14.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.)นำแถลงข่าวทลายขบวนการลักลอบเปิดบริษัทฯ หลอกคนไทยทำงานต่างประเทศ คาดความเสียหายเกือบ 9 ล้าน โดย พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. ร่วมกัน Mr. จัสติน อัลเวส ผู้จัดการความเสี่ยงและการตรวจสอบ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่ปรึกษาสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนิวซีแลนด์ / Ms. คาริน มัลธัส ที่ปรึกษาตำรวจนิวซีแลนด์ / Mr.ลี ยองกอน / ผู้ช่วยตำรวจ สถานทูตเกาหลี
พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ปคม. ได้รับหนังสือร้องทุกข์ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกรมการจัดหางาน หลังมีผู้เสียหาย 13 รายเข้าร้องทุกข์ว่ามีผู้ฝ่าฝืน พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 จากการสืบสวนมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่า กลุ่มผู้ต้องหากระทำการเป็นขบวนการหลอกลวง โดยเริ่มหลอกลวงประชาชนทั่วไป ตั้งแต่ประมาณปลายเดือน ธ.ค. 66 – ก.ค. 67 โดยวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำตลอดเรื่อยมา ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มแรกจะทำหน้าที่จดทะเบียนบริษัทบังหน้าว่าเป็นบริษัทจัดหางาน
เพื่อส่งแรงงานไปทำงานที่ต่างประเทศ จากนั้นผู้ต้องหาอีกกลุ่มจะทำการหว่านล้อมและหลอกลวงประชาชนทั่วไปว่า สามารถยื่นขอวีซ่าและจัดหางานที่ประเทศนิวซีแลนด์ให้ได้ เนื่องจากได้รับสิทธิ (โควต้า) จากนายจ้างที่ประเทศนิวซีแลนด์ ให้หาคนไปทำงานประเภทงานเกษตร งานช่างตกแต่ง โรงงานขนมปัง ซึ่งจะมีการสร้างความน่าเชื่อถือโดยการหลอกลวงว่าเคยมีผู้สมัครแล้วได้ไปทำงานจริง โดยนายจ้างและงานทั้งหมดไม่มีอยู่จริง
นอกจากนี้จากการตรวจสอบเอกสารยังพบเอกสารที่ไม่ตรงกับความจริงเช่น มีการหลอกลวงผู้เสียหายว่าได้รับวีซ่าประเภทถาวร และมีการเรียกเก็บค่าบริการเกินราคามาตรฐานบริษัทจัดหางานทั่วไป โดยไม่ได้มีเจตนาจัดหางานให้ผู้เสียหายทั้ง 13 คน ไปทำงานที่ประเทศนิวซีแลนด์ได้จริง และยังพบว่ามีการหลอกลวงผู้เสียหายโดยใช้แผนพฤติกรรมรูปแบบเดิม
สร้างความเสียหายต่อประชาชนผู้ที่ต้องการเดินทางทำงานต่างประเทศและมีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมากขณะเดียวกันยังพบข้อมูลว่าบริษัทดังกล่าวได้ลักลอบ แอบอ้างเป็นตัวแทนจัดหาแรงงานไปทำงานในประเทศเกาหลีใต้ โดยพบเอกสารของผู้เสียหายในพื้นที่จ.มุกดาหาร กว่า 450 คน ซึ่งกรณีผู้เสียหายจะต้องชำระเงินขั้นแรก 5,000 บาท และเสียเงินก้อนอีกประมาณ 30,000 – 50,000 บาท ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่าจะได้ค่าตอบแทนหลักแสนบาท
จากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 8 รายให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหายืนยันว่าสามารถดำเนินการจัดหางานให้กลุ่มแรงงานได้จริงแต่ขณะนี้ติดขั้นตอนการยื่นวีซ่า จึงทำให้กระบวนการล่าช้า
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews