ภรรยาสจ.โต้ง ร้องโอนคดี มากองปราบ เชื่อมีผู้ร่วมก่อเหตุ 9 คน
สจ.จอย ร้องโอนคดี สจ.โต้ง โดนยิง มากองปราบฯ เชื่อมีผู้ร่วมก่อเหตุ 9 คน วอนคุ้มครองพยานหวั่นไม่ปลอดภัย ลั่นไม่เผาศพจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม
วันนี้ ( 13 ธ.ค.67) เวลา 12.35 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และทนายนิติศักดิ์ มีขวด เข้ายื่นหนังสือขอโอนสำนวนคดีการตายของสจ.โต้ง มาที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)
ทนายนิติศักดิ์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้รับการประสานจากสจ.จอย ที่เป็นภรรยาของสจ.โต้ง เพื่อมายื่นหนังสือถึงพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เพื่อร้องขอให้ทำการโอนย้ายสำนวนคดีจากสภ.เมืองปราจีนบุรี มาที่บก.ป. เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยและเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากคดีดังกล่าวผู้เสียชีวิตถูกยิงถึง 22 นัด และโดนจุดสำคัญทั้งหมด อีกทั้งยังมีผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้อง จึงเกรงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะถูกแทรกแซง แต่ไม่ได้หมายความว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปราจีนบุรีทำงานไม่ดี เบื้องต้นสจ.จอย พอใจในการทำงานของตำรวจที่สามารถจับผู้ต้องหาได้ในทันที และจะทำการฝากขังศาลจังหวัดปราจีนบุรี แต่ว่าอยากให้โอนคดีเพราะกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่หากอีกฝั่งบริสุทธิ์จริง คู่กรณีก็ต้องได้รับความเป็นธรรมด้วย เนื่องจากมีหลักฐานเป็นภาพถ่าย คลิปเสียง ก็ให้นำพิสูจน์ที่บก.ป.
ด้านนายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ตนมาในฐานะเป็นพี่คนสนิทของสจ.โต้ง ยืนยันว่าจะไม่ให้สจ.โต้งตายฟรีแน่นอน โดยจะมีการตั้งทีมทนายความทั้งหมด 2 ชุดมาดำเนินการ และยังได้มีการประสานทางบก.ป.ไว้แล้วเรียบร้อย วันนี้จึงมายื่นเอกสารอย่างเป็นทางการเพื่อให้ทำการโอนคดี และ อีกประเด็นหนึ่งคือ ตนตั้งข้อสงสัยว่าในที่เกิดเหตุมีบุคคลที่อยู่ในบ้านมากกว่า 7 คนที่ถูกจับ คือลูกเขยและหลานชายของนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี โดยลูกเขยทำหน้าที่ใช้ปืนจี้ข่มขู่ลูกน้องของสจ.โต้งซึ่งเป็นตำรวจ ขณะที่เข้าไปช่วยเหลือหลังสจ.โต้งเสียชีวิตแล้ว
ส่วนหลานชายทำหน้าที่ล็อกประตูเพื่อไม่ให้ลูกน้องสจ.โต้ง เข้าไปช่วยเหลือได้ ซึ่งสองคนนี้จะอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้อย่างไร ในเมื่อก็อยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เคยสอบปากคำทั้ง2 คนดังกล่าว ตนจึงมองว่าถ้าหากให้สภ.เมืองปราจีนบุรีดำเนินการอยู่ จะไม่ได้รับความเป็นธรรม
และที่ทำให้รู้สึกกังวลเป็นอย่างมากเนื่องจากว่า สจ.จอยกำลังต่อสู้กับผู้ที่มีอิทธิพลอันดับหนึ่งของประเทศนอกจากนี้ยังอยากร้องขอให้คุ้มครองพยาน ทั้งสจ.จอยและลูกชาย รวมถึงพยานที่จะนำมาให้ตำรวจบก.ป. เป็นผู้สอบปากคำเท่านั้น
สจ.จอย เปิดเผยต่อว่า ปกติสจ.โต้ง ก็มีปัญหากับนายสุนทร ซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาก็สามารถตกลงกันได้ ทำให้ในวันเกิดเหตุ สจ.โต้งจึงเข้าไปเคลียร์ใจกับนายสุนทร ซึ่งครั้งแรกที่เข้าไปเคลียร์ใจนั้นมีลูกน้องของทางสจ.โต้งเข้าไปด้วย และมีการพูดคุยกันถึงขั้นที่นายสุนทรร้องไห้ และสจ.โต้งได้ก้มกราบเท้า ซึ่งการคุยครั้งแรกเคลียร์ใจกันเรียบร้อยแล้ว และสจ.โต้งก็กลับเข้าไปอีกรอบ เพื่อไปส่งนายสุนทรเข้านอน และการเข้าไปครั้งที่ 2 สจ.โต้ง เข้าไปเพียงคนเดียว เพราะฝั่งคู่กรณีมีการปิดประตูรั้วไม่ให้ผู้อื่นเข้า โดยขณะเข้าไปสจ.โต้งไม่มีอาวุธปืน และยังเอาโทรศัพท์ฝากลูกน้องไว้ ดังนั้นเสียงปืนที่ดังขึ้นจะมาจากสจ.โต้งได้อย่างไร
นายอัจฉริยะ ได้พูดเสริมอีกว่า สิ่งที่ตำรวจพูดว่า สจ.โต้งขึ้นไปข้างบนแล้วถูกยิงลงมา ยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะสจ.โต้งแค่ก้าวบันไดเพียงขั้น 2 ก็ถูกยิงจากด้านหน้า และมีการยิงซ้ำอีกหลายครั้งหลังตายไปแล้ว ซึ่งสจ.โต้งยังขึ้นไปไม่ถึงห้องนอนเลย
ส่วนเรื่องคลิปเสียงที่หลุดมานั้น เป็นเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ก่อนที่สจ.โต้งจะก้มกราบเท้า ซึ่งเป็นการคุยต่อหน้า แต่คลิปเสียงที่มีการอัดมานั้น สจ.โต้ง ได้โทรไลน์หาบุคคลหนึ่งซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่ไว้ใจมาก ซึ่งปลายสายก็ได้บันทึกเสียงไว้ เพื่อเป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังอีกมีหลายคลิปและมีพยานอีกเยอะที่อยากให้สอบปากคำ โดยที่ผ่านมาทุกคนก็ห้ามไม่ให้สจ.โต้งเข้าไป เพราะรู้อยู้แล้วเข้าไปจะโดนอะไร และส่วนตัวมองว่า หากไม่สั่งแล้วใครจะกล้ายิง
ต่อมาในเวลาภายหลังจากการยื่นหนังสือ นายอัจฉริยะ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการโอนสำนวนคดีมาที่กองบังคับการปราบปราม เบื้องต้นได้มีการปรึกษากับตำรวจ คาดว่าภายใน 2-3 วันนี้จะมีความชัดเจนและที่ผ่านมาสจ.โต้งได้มีการระมัดระวังตัวเองมาตลอด แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายในบ้านหลังนั้น
ด้าน สจ.จอย กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้รู้สึกสบายใจขึ้น แต่ก็ยังกังวลเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกในอนาคต โดยหลังจากนี้จะมีการเปลี่ยนกำหนดการฌาปนกิจศพของสจ.โต้ง จากเดิมวันที่ 17 ธ.ค. ไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews