“อัจฉริยะ” เตรียมนำหลักฐานใบสั่งตายลงขันเงิน 30 ล้านบาท สังหาร สจ.โต้ง ให้กองปราบ หากรับโอนสำนวนคดีจากพื้นที่ ยืนยันตอนนี้คนสั่งการยังลอยนวล
วันนี้ (18 ธ.ค. 67) ที่ ศาลจังหวัดนนทบุรี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวถึงกรณีอดีตนักการเมืองท้องถิ่นสั่งลงขัน 30 ล้านบาทสังหารนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ว่า มีกำหนดให้ลงมือสังหารภายในวันที่ 11 ธันวาคมตั้งแต่เวลาเที่ยงวัน แต่ช่วงเวลาดังกล่าว สจ.โต้ง ติดธุระ จึงไม่ได้เดินทางไปที่บ้าน นายสุนทร ตามแผนที่ถูกวางไว้ แต่กลับเดินทางไปที่บ้านนายสุนทรในช่วงเย็นแทนเพื่อเคลียร์ปัญหาทั้งหมดจด กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นซึ่งตนเชื่อว่าหาก สจ.โต้ง เดินทางไปที่บ้านนายสุนทรก่อนหน้านั้นก็อาจจะถูกยิงเสียชีวิตตั้งแต่ตอนนั้นตามใบสั่งตาย
โดยนายอัจฉริยะยืนยันว่ามีพยานในที่เกิดเหตุว่าคนที่สั่งการคืออดีตนักการเมืองท้องถิ่น เคยสังกัดพรรคการเมืองดัง และเป็นคนว่าจ้างและใช้นายสุนทรเป็นเครื่องมือติดต่อให้ สจ.โต้ง เข้าไปหาที่บ้าน ซึ่งนายสุนทรได้บอกกับอดีตนักการเมืองคนดังกล่าวว่า ถ้าจะยิงต้องยิงในบ้านเท่านั้น และตามนิสัยของ สจ.โต้ง ที่ตนรู้จักหากมีปัญหาอะไรกับใครก็ต้องรีบเคลียร์ และ สจ.โต้ง ก็คิดว่าการเดินทางไปที่บ้านนายสุนทรซึ่งเป็นพ่อบุญธรรม คงไม่มีอันตรายอะไรจึงไม่มีการพกอาวุธเข้าไป
นายอัจฉริยะ เผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนยังได้คุยโทรศัพท์กับ สจ.โต้ง ก่อนเสียชีวิตด้วย โดย สจ.โต้ง เล่าให้ตนเองฟังถึงเรื่องเงิน 30 ล้านบาท โดยยืนยันว่าตนมีหลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับที่มาของเงินจำนวนนี้ว่ามีการแบ่งเงินเป็น 2 ก้อน ให้ใครบ้าง ซึ่งมีข้อมูลว่าเงินก้อนแรกจำนวน 20 ล้านบาท อยู่ที่ “รองอุ๊” ที่ สจ.โต้ง นำไปฝากไว้เพื่อเตรียมใช้สำหรับการเลือกตั้ง ส่วนเงินก้อนที่ 2 จำนวน 10 ล้านบาท สจ.โต้ง ให้นายสุนทรเพื่อให้ไฟเขียวให้ตนส่ง สจ.จอย ที่เป็นภรรยาลงสมัครแทน และมารู้ภายหลังว่าเงินก้อนนี้นายสุนทรได้แบ่งให้ลูกสาว คือ นางสาวกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 5 ล้านบาท
นายอัจฉริยะ ระบุอีกว่าใบสั่งตายครั้งนี้เกิดขึ้นจากอดีตนักการเมืองคนนี้อยากลงสมัคร นายก อบจ.ปราจีนบุรี โดยจะลงสมัครภายใต้การสนับสนุนของนายสุนทร จึงจะมีการจ่ายเงิน 30 ล้านบาท สังหาร สจ.โต้ง เพื่อเป็นการเปิดทาง และเท่าที่รู้กันดีว่านายสุนทรขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงเป็นที่มาของการนัดมาเคลียร์ใจกันที่บ้านของนายสุนทรในวันเกิดเหตุ โดยใบสั่งตายนี้ระบุแม้กระทั่งวันและเวลาตาย
นายอัจฉริยะยืนยันว่าตนมีหลักฐานการสั่งฆ่า สจ.โต้ง ซึ่งจะนำไปมอบให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามเท่านั้น หลังรับโอนสำนวนคดีมาจากในพื้นที่ เพราะไม่มั่นใจเรื่องการทำงานของตำรวจ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews