Home
|
อาชญากรรม

ยึดเงินของกลาง 13 ล้าน คดีจีนหักจีนโกงเงินดิจิทัล

Featured Image

 

 

ตร.ห้วยขวาง ยึดเงินของกลาง 13 ล้าน คดี จีนหักจีน โกงเงินดิจิทัล พบคนบงการ เป็นโบรกเกอร์ อยู่มาเก๊า

 

 

 

ความคืบหน้ากรณี ที่คนจีนหักการซื้อขายเงินดิจิทัลกับคนจีนกันเอง โดย โบรกเกอร์ซึ่งเป็นคนกลางการซื้อขายเชิดเหรียญคริปโตไป ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายมีปัญหากันเองถึง 3 ราย เหตุเกิดในท้องที่ สน. ห้วยขวาง 2 คดี และในท้องที่ สน. มักกะสัน อีก 1 คดี เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.68) รวมความเสียหายทั้งหมดเป็นเงิน 17.5 ล้านบาท

 

 

วันนี้ (10 ม.ค.68) พันตำรวจเอก ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยความคืบหน้าว่า ในส่วนของคดีที่ สน. ห้วยขวางทั้ง 2 คดีนั้น ตำรวจยึดเงินของกลางกลับคืนมาได้ทั้งหมด 13 ล้านบาท และเก็บไว้เป็นของกลาง จนกว่าการสอบสวนคดีจะแล้วเสร็จ จึงคืนให้แก่ผู้เสียหาย

 

 

โดยสรุปทั้ง 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นายเฉินซึ่งเป็นโบรกเกอร์ในการซื้อขายแลกเปลี่ยน เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง โดยก่อนหน้านี้นายเฉินจะเป็นตัวกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการซื้อขายกันได้จริง โดยผู้ขายจะต้องโอนเงินดิจิทัลเข้าบัญชีนายเฉินก่อน เนื่องจากให้ราคาถูกกว่า ซึ่งทำให้ผู้ซื้อสามารถนำไปขายทำกำไรต่อได้

 

 

สำหรับแผนประทุษกรรมก่อนหน้านี้ มีการซื้อขายกันได้จริงโดยเริ่มต้นจากการซื้อขายหลักแสนบาท ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายที่เคยให้นายเฉินเป็นโบรกเกอร์เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ครั้งต่อมาจึงซื้อในจำนวนที่มากขึ้น จนกระทั่งครั้งล่าสุดเมื่อวาน นี้ หลังจากที่ผู้ขายได้โอนเงินท่านเข้าบัญชีของนายเฉิน แล้ว. แต่นายเฉิน กลับไม่โอนเงินดิจิทัลให้กับผู้ซื้อ จึงทำให้เกิดปัญหาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง เงินดิจิทัลจึงไปตกอยู่ในมือของนายเฉิน

 

 

จากการตรวจสอบล่าสุด พบว่านายเฉินเดินทางออกจากประเทศไทยไปมาเก๊า เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่าเป็นคนบงการอยู่ที่มาเก๊า และเมื่อประสานข้อมูลไปยัง สน.มักกะสัน เพื่อตรวจสอบอีกคดีที่เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน ในวันเดียวกัน ซึ่งมีความเสียหายเป็นเงิน 4.5 ล้านบาท ปรากฏว่าโบรกเกอร์ไม่ใช่นายเฉินที่เป็นต้นเหตุในคดีที่เกิดขึ้นใน สน. ห้วยขวาง โบรกเกอร์เป็นคนละคนกัน

 

 

สำหรับรถโตโยต้า อัลพาร์ด ที่ใช้ก่อเหตุชิงเงิน 5 ล้านบาท ตำรวจได้นำมาจอดเก็บไว้ที่ สน. ห้วยขวาง เมื่อคืนเจ้าที่พิสูจน์หลักฐานได้มาตรวจสอบเก็บหลักฐานภายนอกรถเบื้องต้นแล้ว หากได้กุญแจรถมาก็จะประสานให้เจ้าที่พิสูจน์หลักฐาน มาตรวจสอบภายในรถอีกครั้ง

 

 

ส่วนการสอบปากคำพยาน มีการสอบไปหลายปากแล้ว โดยในวันนี้ได้นัดให้เจ้าของอาคารย่านยานาวา ที่เจ้าของรถโตโยต้า อัลพาร์ด ไปเช่าเปิดออฟฟิศมาให้ปากคำ

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube