ผู้ป่วยทิพย์ เผย ได้เงิน 1,500 บาท แลกกับยารพ.ทหารผ่านศึก

ผู้ป่วยทิพย์ยอมรับ รับเงินครั้งละ 1,000-1,500 บาท แลกกับยาของโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ก่อนไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลจังหวัดลพบุรี แฉขบวนมีมานานนับ 10 ปี
วันนี้ ( 6 มี.ค 68) เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตลพบุรี จากกรณีการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก โดยทำกันเป็นขบวนการทำให้รัฐบาลเสียหายไปเป็นจำนวนหลักพันล้านบาท
หญิงหนึ่งราย อายุ 54 ปี ผู้อยู่ในขบวนการผู้ป่วยทิพย์ เปิดเผยว่า ตนได้รู้จักกับ จ่าออด ที่เป็นเพื่อนกัน ได้ชักชวนให้เข้ามาร่วมในกระบวนการ โดยเสนอเงินให้ครั้งละ 1,000 ถึง 1,500 บาท ต่อการไปเบิกยาผ่านระบบการจ่ายตรงของสิทธิ์ทหารผ่านศึก ที่ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก กทม. ทุกๆครั้งที่เดินทางไปเบิกยา จ่าออดจะจัดเตรียมรถตู้มาคอยรับส่งถึงที่บ้าน และคอยกำชับว่าให้แกล้งป่วยเป็นโรคต่างๆ โดยมีโพยบอกอาการและชื่อยาว่าต้องการแบบไหน เมื่อเข้าไปพบแพทย์
ซึ่งทุกๆครั้งจะพบ พญ.คนเดิมทุกครั้ง คาดว่าเป็นหนึ่งในขบวนการ เพราะไม่ค่อยซักถามอาการมาก นั่งคุยก็ถามๆแปบเดียวและจ่ายยาตามที่เราบอก โดยจะขอยาเผื่อล่วงหน้าหลายเดือน เพื่อจะได้ตัวยามามากกว่าปกติ เมื่อได้ยามาแล้ว ก็จะนำมาให้จ่าออดบนรถตู้เพื่อแลกกับเงินที่ตกลงกันไว้แต่แรก ส่วนยาที่ให้จ่าออดไปนั้น ตนไม่ทราบว่ายาถูกนำไปไว้ที่ไหน
จากนั้น เมื่อเดินทางมาถึงจ.ลพบุรี ตนก็จะไปรักษาโรคอีกโรงพยาบางแห่งหนึ่งในตัวเมือง โดยจะได้ยาตามความจริงของโรคที่เราป่วย แต่ยาจะน้อยกว่า ซึ่งตนได้ใช้วิธีนี้มาแล้ว 2-3 ปี ตนรู้ว่าสิ่งที่กระทำมันไม่ถูกต้อง จึงมาปรึกษากับสามีว่าจะเลิกทำ แต่แล้วเกิดเป็นกระแสข่าวดังกล่าว และถูกตำรวจเชิญมาให้ปากคำ ตนรู้สึกกังวลใจและเคลียดเป็นอย่างมาก กลัวว่าจะถูกดำเนินคดี
นางสาวชพัชนีย์ พูนสุข หนึ่งในผู้เข้าร่วมเปิดโปงขบวนการนี้ เปิดเผยว่า ตัวเองอยู่ในฐานะหนึ่งในผู้ร่วมเปิดปลงในขบวนการนี้ โดยได้รับข้อมูลจากแม่ทีม เกี่ยวกับกระบวนการดังกล่าว จึงรวบรวมข้อมูลมานานกว่า 6 เดือน ก่อนจะวางแผนนำคนแฝงตัวเข้าไปเพื่อหาพยานหลักฐานพร้อมถ่ายคลิปวีดีโอ นำส่งให้คณะกรรมาธิการทหาร ตรวจสอบ จนนำไปสู่การสอบสวนดำเนินคดี
วันนี้ได้พาผู้ที่ถูกชักชวนใน 1 สายงานที่เข้าร่วมขบวนการ กว่า 100 คน โดยแบ่งเป็น 2 วัน วันละ 50 คน พร้อมแม่ทีม มาให้ข้อมูลกับตำรวจ และยังพบว่ามีอีก 5 สายงานที่ยังไม่ได้ถูกเชิญตัวมาเข้าพบในวันนี้ โดยมีข้อมูลว่าแม่ทีมบางคน มีการข่มขู่ผู้ถูกชักชวนให้เข้าร่วมขบวนการ เพื่อไม่ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะอาจจะถูกดำเนินคดี
ส่วนความผิดปกติที่พบในกระบวนการนี้ก็คือการรับยานอกบัญชี อีกโรงพยาบาลหนึ่ง ทั้งที่มีสิทธิ์รักษาโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดลพบุรี โดยใช้สิทธิ์เบิกตรงจากกรมบัญชีกลาง ซึ่งในกระบวนการนี้ดำเนินการมานานกว่า 10 ปีแล้ว คาดว่าทำให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีพันเอกหญิง ก. เป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการนี้ ส่วนแพทย์ผู้จ่ายยา ดูข้าราชการระดับสูงจนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เป็นหน้าที่ของตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews