“บิ๊กหวาน” แถลงจับหัวหน้าแก๊งคอลฯญี่ปุ่น

จเรตำรวจแห่งชาติ แถลงจับกุมหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวญี่ปุ่น พร้อมช่วยเหลือเหยื่อส่งตัวผู้ต้องหากลับประเทศ
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ แถลงผลปฏิบัติการจับกุมหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวญี่ปุ่น พร้อมช่วยเหลือเหยื่อที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการ โดยคดีแรกจับกุม นายยามากูชิ ฯ เป็นอดีตสมาชิกแก๊งยากูซ่า และเป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชาและเวียดนาม โดยมีพฤติกรรมหลอกลวงชาวญี่ปุ่น และมักเดินทางเข้าออกประเทศไทยบ่อยครั้ง ทั้งยังเช่าที่พักราคาสูงถึง 180,000 บาทต่อเดือน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่า นายยามากูชิ ได้จัดตั้งบริษัท “ลาสซามูไร เจแปน” ซึ่งดำเนินธุรกิจซื้อขายงานศิลปะราคาสูง คาดว่าอาจใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน ไปทั่วโลกเนื่องจากฐานข้อมูลของเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ จากการตรวจค้นที่พักของนายยามากูชิ พบชาวญี่ปุ่นอีก 4 ราย ซึ่งเคยต้องโทษในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังพบทรัพย์สินดิจิทัลมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวต่อว่า นายยามากูชิ นับเป็นผู้ต้องหาที่ทางการญี่ปุ่นต้องการตัวมากที่สุดเนื่องจากพบว่าเป็นหัวหน้าแก๊งค์ ยากูซ่าระดับบนของประเทศญี่ปุ่นที่คอยประสานการทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีความเชื่อมโยงกับฝั่งประเทศเมียนมาร กัมพูชา และเวียดนาม โดยประเทศไทยมีกำหนดการส่งตัวประมาณต้นเดือนเมษายน
นอกจากนี้ จับกุม นายมิยาชิตะ มาชิโระ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลักทรัพย์ และทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ดังกล่าวจับกุมตัวนายมิยาชิตะ และส่งกลับมายังประเทศไทย นายมิยาชิตะ ยอมรับว่าได้ทำงานเป็นฝ่ายการเงินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 ทางเจ้าหน้าที่ไทยได้ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ก่อนส่งตัวกลับไปดำเนินคดีในญี่ปุ่นต่อไป
อีกคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยให้ความช่วยเหลือชาวญี่ปุ่น 2 ราย ได้แก่ นายยาจิ อายุ 22 ปี และ นายอิชิกาว่า อายุ 47 ปี ซึ่งตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่การตรวจสอบพบว่าหนึ่งในนั้นเคยต้องโทษคดีลักทรัพย์ในญี่ปุ่น ทั้งสองเดินทางผ่านเส้นทางธรรมชาติเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และมีความเชื่อมโยงกับคดีเยาวชนชาวญี่ปุ่นอายุ 16 ปี ที่ตำรวจไทยเคยช่วยเหลือก่อนหน้านี้ ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า สถานที่ทำงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวมีชาวญี่ปุ่นทำงานอยู่ประมาณ 10 คน ตำรวจไทยได้ประสานงานกับทางการญี่ปุ่นเพื่อส่งตัวผู้เสียหายทั้งสองกลับประเทศ และดำเนินการสืบสวนต่อไป
จเรตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า จำนวนของผู้ต้องหาและผู้เสียหายที่ทางการญี่ปุ่นประสานให้ไทยช่วยจัดการมีอยู่พอสมควร แต่ในส่วนของผู้ต้องหาที่ทางการญี่ปุ่นต้องการตัวถือว่าทางการไทยได้จับกุมควบคุมมาครบแล้วในส่วนของเหยื่ออยู่ในระหว่างประสานงานคาดว่าตัวเลขไม่เกินที่ 20 คน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews