กองปราบ จ่อออกหมายเรียก “ดิว อริสรา” คดียักยอกทรัพย์

รองเอนก จ่อ ออกหมายเรียก ดิว อริสรา คดียักยอกทรัพย์ แนะบุคคลที่สามส่งทรัพย์สินคืน เสี่ยงรับของโจร ไม่หนักใจสร้อยเพชร 26 ล้านอยู่ในมือรมต.
วันนี้ ( 20 มี.ค.68) ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยถึง นายอรรถชัย แจ้งอรุณ ทนายความของ มาดามเมนี่ หรือ เมย์ วาสนา อินทะแสง’ นักธุรกิจสาวพันล้าน เดินทาง เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนบก.ป. ว่า วันนี้ทนายของเมย์วาสนา มาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยในวันที่ 11 มี.ค. เข้ามาให้ข้อมูล ยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน วันนี้จึงจะต้องสอบหลายประเด็นเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าเป็นอย่างไร
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผย กรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีออกหมายเรียกน.ส.อริสรา ทองบริสุทธิ หรือ ดิวอริสรา นั้น ยืนยันว่ายังไม่ได้มีการออกหมายเรียก ซึ่งการที่มาดามเมย์ มากล่าวหาเป็นคดียักยอกทรัพย์ ในคดีลักษณะแบบนี้จะต้องใช้ระยะเวลาในการสืบสวนสอบสวน และต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียก อย่างไรก็ตามขอเวลาในการทำงานตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดก่อน เบื้องต้นจากการฟังข้อเท็จจริงตอนนี้เข้าข่ายเพียงข้อหายักยอกทรัพย์ ข้อหาอื่นยังไม่พบ
ซึ่งในวันนี้ทางดิว อริสรา จะส่งทนายความมาพบพนักงานสอบสวนในเวลา 11.00 น. ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเข้ามาในประเด็นไหน แต่มีการติดต่อเข้ามาเพื่อพบตำรวจ ซึ่งยังไม่สามารถตอบได้ว่าคดีนี้จะเป็นคดีแพ่งหรืออาญา ต้องดูรายละเอียดก่อน หากดิวอริสราเอาของไปและเปลี่ยนแปลงเป็นทรัพย์สินของตัวเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต จะเป็นเรื่องการยักยอกทรัพย์ ซึ่งคดียักยอกมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี
แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนออกหมายเรียกก่อน เว้นแต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง หรือหนีไปแล้ว ก็สามารถออกหมายจับได้เลย ซึ่งคดียักยอกทรัพย์สามารถยอมความได้ ถ้าตกลงกันได้ไม่ว่าด้วยกรณีใด ถ้าผู้เสียหายถอนความร้องทุกข์ คดีอาญาก็จบ
ส่วนทรัพย์สินของมาดามเมย์ ตกไปอยู่กับบุคคลที่สามจะมีความผิดหรือไม่นั้น พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ความผิดเดิมถ้าเป็นเรื่องยักยอก สิ่งของนั้นไปอยู่กับบุคคลที่สาม ก็จะต้องตรวจสอบก่อนว่าบุคคลที่สามรู้หรือไม่ หากรู้ว่าทรัพย์นั้นเป็นทรัพย์ของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ของผู้ที่เอามาให้ และเป็นการยักยอกทรัพย์หรือลักทรัพย์นั้น ก็ต้องขอตรวจสอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับบุคลคลที่สาม แต่หากรู้และมีพฤติกรรมซ่อนเร้นเอาไว้ ก็จะเข้าข่ายรับของโจร ทั้งนี้อยู่ที่เจตนาของบุคคลที่สามว่ารู้แล้วแสดงความบริสุทธิ์ใจอย่างไร
อย่างไรก็ตามถ้าทรัพย์สินพิสูจน์ได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่มาจากการกระทำความผิดทางตำรวจก็สามารถยึดได้เลย และหากผู้ที่ครอบครองทรัพย์สินตอนนี้ หากทราบว่าตอนนี้เป็นทรัพย์ของมาดามเมย์ ก็สามารถนำมาคืนให้กับตำรวจได้ ส่วนความเสียหายก็ไปฟ้องไล่เบี้ยกับดิวอริสรา ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการเรียกบุคคลที่สามเข้าพบ แต่หากตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินไปอยู่ที่ใครก็จะต้องเชิญมา แต่ขณะนี้ยังไม่มีบุคคลที่สามติดต่อเข้ามาแต่อย่างใด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews