Home
|
อาชญากรรม

ร.ต.อ.ผูกคอดับในรพ.เครียดป่วยโควิด-19

Featured Image
โฆษก ตร. แจงกรณี ตำรวจรถไฟ ผูกคอเสียชีวิต รพ.ตำรวจ ระหว่างรักษาโควิด-19 เผย ต้นเหตุเครียดที่ทำให้ครอบครัวต้องเสี่ยงติดเชื้อไปด้วย

พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงชี้แจงกรณีที่มีรายงานว่า มีข้าราชการตำรวจ ฆ่าตัวตายระหว่างเข้ารับการรักษาโรคโควิด-19 ที่โรงพยาบาลตำรวจ และจากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่า ตำรวจนายดังกล่าว คือ ร้อยตำรวจเอกบุญชู พรรณกลิ่น อายุ 59 ปี สังกัดกองบังคับการตำรวจรถไฟ กรณีดังกล่าวนี้ว่า ผู้เสียชีวิตไม่ได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด แต่เกิดจากการฆ่าตัวตาย เพราะผู้ป่วยมีความเครียด เนื่องจากโทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุให้คนในครอบครัว มีภาวะความเสี่ยงในการติดเชื้อไปด้วยส่วนทางครอบครัวนั้นไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต

ร.ต.อ.ผูกคอดับในรพ.เครียดป่วยโควิด-19

ด้าน พล.ต.ท.นายแพทย์ พรชัย สุธีรคุณ นายแพทย์ (สบ.8) โรงพยาบาลตำรวจ ได้เปิดเผยไทม์ไลน์ของผู้เสียชีวิตว่า ตั้งแต่ช่วงวันที่ 15 – 16 เมษายน ผู้เสียชีวิตมีอาการท้องเสีย

ต่อมา วันที่ 17 เมษายน เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ และพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงประสานให้โรงพยาบาลตำรวจ มารับตัวช่วงค่ำวันที่ 18 เมษายน วันต่อมาผู้เสียชีวิตมีอาการไข้สูงตลอดเวลา เจ็บหน้าอก ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ และนอนไม่หลับ จนวันที่ 20 เมษายน มีอาการแย่ลง ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำลง จากนั้นช่วงเย็นวันเดียวกันผู้เสียชีวิตเข้าห้องน้ำ นานจนผิดสังเกตพยาบาลจึงเข้าไปตรวจสอบจึงพบ ผู้เสียชีวิตใช้เข็มขัดผูกคอตายในห้องน้ำ ส่วนศพผู้เสียชีวิตนั้นได้ส่งไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ แล้ว

ทั้งนี้ นายแพทย์ (สบ.8) โรงพยาบาลตำรวจ ยืนยันว่าทางโรงพยาบาลตำรวจมีมาตรฐานในการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการให้พักรักษาตัวสังเกตอาการที่โรงพยาบาลสนาม และหากพบว่า มีอาการทรุดตัวลง จะย้ายผู้ป่วยไปรักษายังหอผู้ป่วยของโรงพยาบาลตำรวจ ต่อไป ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น ในมาตรฐานการรักษาผู้ป่วยแม้ว่าจะมีข้อจำกัดเกี่ยวกับเตียงในการรองรับผู้ติดเชื้อก็ตาม แต่ยืนยันไม่กระทบกับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของแพทย์

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube