“รองทวิดา” ยอดตึกถล่มดับแล้ว 21 รายค้นหาผู้สูญหายต่อ
รองผู้ว่าฯ อัพเดท ยอดผู้เสียชีวิต เป็น 21 รายแล้ว เร่งนำรถแบคโฮ ไต่ขึ้นโซน D เพื่อลดระดับความสูงจุด E ลง 5 เมตร เชื่อ จะพบผู้สูญหายเพิ่ม
วันนี้ (8 เม.ย. 68) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าภารกิจการค้นหาผู้สูญหายที่ติดอยู่ใต้ซากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า เบื้องต้นยืนยันว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจาก 17 เป็น 21 ราย ซึ่งร่างทั้ง 4 ร่างที่ได้นำออกมาในวันนี้มาจากโซน C
รศ.ทวิดา กมลเวชช กล่าวว่า ในส่วนของการรื้อถอน มีความก้าวหน้าอย่างมาก โดยเฉพาะบริเวณโซน A ที่เราสามารถถมดินสูงขึ้นไปอีกระดับ จนเราสามารถนำรถแบล็คโฮขึ้นไปได้ ซึ่งเป้าหมายคือการนำรถแบ็คโฮขึ้นไปยังโซน D ด้วย โดยเรามีการแบ่งพื้นที่เป็น 4 ส่วน ซึ่งเราก็กำลังนำรถแบคโฮขึ้นไปยังจุด D2 ให้ได้ ซึ่งใช้เทคนิกบีบปูนให้แตก และตัดเหล็กเส้น เพื่อให้บริเวณจุด E ลดระดับลงมา 5 เมตร เพราะเราเจอผู้สูญหายในจุด C และ D เป็นส่วนใหญ่
และยังเชื่อว่า ทั้ง 2 จุด เป็นจุดที่คาดว่ามีผู้คนงานจำนวนหนึ่ง ทำงานอยู่ระหว่างชั้นที่ 20-30 ทั้ง จุด C ก็เป็นจุดที่เรามีการเจาะโพรงไว้อยู่แล้วตั้งแต่วันแรก ซึ่งเรายืนยันว่า จะดำเนินการแผนการนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าความสูงของจุด E จะลดน้อยลงมา โดยจากการประเมินกับคนงานที่รอดชีวิต และวิศวกร เชื่อว่า ถ้าเปิดโพรงนี้ได้สำเร็จ ก็จะเจอร่างผู้สูญหายมากขึ้น
ส่วนเรื่องรถเครนขนาด 1,000 ตัน สามารถเคลื่อนย้ายวัตถุที่มีน้ำหนักมากได้นั้น รศ.ทวิดา กล่าวว่า การจะนำรถเครน 1,000 ตันเข้ามาสนับสนุนภารกิจในการนำรถแบคโฮไปบีบอัดปูนเพื่อลดระดับควาทสูงของจุด E บริเวณจุด A กับจุด D เป็นด้านที่ไม่มีบันไดหนีไฟในการใช้หนี จึงมีการประเมินสถานการณ์ตั้งแต่วันแรกอยู่แล้วว่า เราสามารถทำเป็นฐาน เพื่อใช้รถแบคโฮขึ้นไปได้ โดยยืนยันว่า เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยอยู่แล้ว
เนื่องจากเป็นการนำรถแบ็คโฮขึ้นไป เราต้องตรวจสอบว่าพื้นมีความหนาแน่น และปลอดภัยในการทำภารกิจได้ รวมทั้งสุนัข K9 ก็ได้ค้นหาจุดดังกล่าวแล้ว ก็พบว่าไม่มีผู้ติดค้างหรือสูญหาย และมีความเป็นไปได้ในระหว่างที่มีการเปิดพื้นที่นี้ ก็อาจจะเจอผู้สูญหายได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
