เจ้าหน้าที่DSIติดเชื้อโควิด1ราย
DSI พบมีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อโควิด 1 ราย เร่งทำความสะอาดฆ่าเชื้อเต็มรูปแบบ พร้อมสั่งกักตัวผู้เกี่ยวข้องลดการแพร่ระบาด
พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่า มีข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษติดเชื้อ โควิด 1 ราย ซึ่งขณะนี้ ได้เข้ารับการรักษาตัวภายในโรงพยาบาลแล้ว โดยศูนย์อำนวยการและประสานงานการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เร่งดำเนินการทำความสะอาดฆ่าเชื้อเต็มรูปแบบในพื้นที่สำนักงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยในวันที่ 23 เมษายน 2564 จะปิดทำการสำนักงานดังกล่าว เป็นเวลา 1 วัน เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อเต็มรูปแบบอีกครั้ง ตามแนวทางการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั้งนี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ทำการกักตัวและให้ปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย เป็นเวลา 14 วัน โดยกำชับให้ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด รับผิดชอบต่อตนเอง ต่อคนรอบข้าง และต่อสังคม พร้อมทั้งได้ประสานงานสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อจัดส่งแพทย์มาทำการตรวจเชื้อให้กับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษในวันที่ 26 เมษายน 2564 และวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 โดยได้รับการสนับสนุนชุดอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พร้อมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล PPE จาก ศูนย์บริการสาธารณสุข 53 ทุ่งสองห้อง สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร
ด้าน พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีการระวังป้องกันการแพร่ระบาดภายในองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เตรียมการและใช้มาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาด ฯ อย่างเข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระหว่างนี้ หากประชาชนมีความจำเป็นต้องติดต่อราชการกับกรมสอบสวนคดีพิเศษยังสามารถเดินทางมาติดต่อได้ แต่หากไม่จำเป็นต้องพบปะเจ้าหน้าที่โดยตรง หรือไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน สามารถใช้การติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางอื่นที่ได้จัดทำไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เช่น สายด่วน DSI Call Center 1202 (โทร.ฟรี) หรือส่งจดหมายมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ แทน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news