เพจดังแชร์! เคสอาม่าติด โควิด19 รอเตียงในบ้านพัก ย่านบางคอแหลม สุดท้ายมี 1 ใน 3 ผู้ป่วยเสียชีวิต จี้เร่งแก้ปัญหาก่อนระบบสาธารณสุขจะล้มเหลว
เพจDrama-addict @DramaAdd โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เปิดเผยเรื่องราว กรณีพบผู้ป่วยสูงอายุ 3 คน ติด โควิด19 โดยทั้งหมดอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน ย่านบางคอแหลม กทม. ระบุข้อมูล โดยไล่ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ขอความช่วยเหลือ ไปจนถึงกรณีพบมี 1 ในผู้ป่วยเสียชีวิตในบ้านพัก ว่า
ใครก็ได้ช่วยอาม่าด้วย แต่ถามถึงคนที่ออกนโยบาย คือคุณจะเอายังไง จะให้เคสไม่หนักอยู่บ้านได้หรือยัง แล้วเก็บเตียงไว้ให้เคสเสี่ยง เคสหนัก มันไม่มีทางที่จะทำได้หรอกนะ การเอาเคสติดเชื้อทุกรายไม่ว่าจะหนักหรือไม่หนัก ไปอยู่ ใน รพ.สนาม ในฮอสพิเทล แล้วฮอทไลน์ เราก็มีจำกัด เป็นแบบนี้ต่อไป ระบบสาธารณสุขมันจะล้มเหลว ถึงตอนนั้นทุกอย่างจะพังพินาศหมด
ก่อนที่ต่อมาจะโพสต์ ว่า เคสอาม่า 3 คนนั้น ที่ไม่สามารถหาเตียงแอดมิทได้ จนอาม่าคนนึงเสียชีวิตที่บ้าน นี่คือจุดเริ่มต้น เดี๋ยวจะมีเคสแบบอาม่าตามมาอีกเยอะ ถ้าเราไม่รีบแก้ไขจะมีคนตายที่บ้านเหมือนสมัยอิตาลี ตอนระบาดช่วงแรก ๆ เยอะมาก ปัญหาตอนนี้คือ การจะให้ทุกเคสแอดมิท ใน รพ., รพ.สนาม ฮอสพิเทล คือถ้าการระบาดยังไม่เยอะมาก ทำแบบนั้นก็ถูก
แต่สถานการณ์ตอนนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมหาศาล บุคลากรแพทย์ พยาบาล ก็แทบจะสุดสายป่านกันแล้ว และเราติดปัญหาคอขวดตรงระบบการประสานงาน คู่สายไม่เพียงพอ การประสานงานส่งเคสไปแอดมิท ยังล่าช้า มีเคสที่ต้องรอที่บ้าน สี่ห้าวันถึงสัปดาห์มากขึ้นเรื่อย ๆ และถ้ายังแก้ตรงนี้ไม่ได้ เราจะเห็นคนล้มตายที่บ้านเป็นห่าฝนเลยครับ
นี่ไม่ใช่การพูดเกินจริงแต่ประการใด เพราะสิ่งที่เราเจอตอนนี้ เหมือนสถานการณ์ช่วงอิตาลีหนัก ๆ ทุกประการ และถ้าถึงขั้นระบบสาธารณสุขล่มสลาย ไม่ได้มีแต่คนที่ติดโควิดที่อาการหนักที่จะตาย แม้แต่คนที่ป่วยโรคอื่น แต่เข้าไม่ถึงช่องทางติดต่อสายด่วนฉุกเฉิน ก็จะตายด้วย เพราะทุกอย่างมันมั่วซั่วไปหมดแล้วในตอนนี้ ขอย้ำอีกครั้ง ถ้าไม่แก้ไขปัญหานี้ คนเฒ่าคนแก่ กลุ่มเสี่ยง จะตายที่บ้านเป็นห่าฝน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการชี้แจงข้อมูล จากผู้บริหารกรุงเทพมหานคร หรือ ผู้เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเป็นทางการอีกครั้ง
“อนุทิน” รู้แล้วผู้สูงอายุป่วยโควิดตายบางคอแหลม รับเป็นห่วงผู้ที่กักตัวอยู่ในบ้าน สั่ง สปสช. เร่งช่วย ยังมั่นใจคุมสถานการณ์แพร่ระบาดในประเทศได้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีผู้สูงอายุ 3 ราย ที่ติดเชื้อที่พักอาศัยอยู่ที่บ้าน และติดเชื้อจนเสียชีวิต 1 ราย ในเขตบางคอแหลมนั้นได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขึ้นทุกคนก็เสียใจ และพยายามแก้ไขอย่างเต็มที่ แม้จะทำเต็มที่แล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอ แต่ไม่สามารถไปกดดัน หรือสั่งย้ายผู้เกี่ยวข้องได้เพราะทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทุกคนยังมีขวัญกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ และทุกคนก็ทุ่มเทอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
อย่างไรก็ตาม ได้ให้กรมการแพทย์ ประสานงานไปยังกรุงเทพมหานคร เพื่อปรับปรุงระบบ เพื่อให้แยกประเภทคนไข้ในกรณีฉุกเฉินแล้ว
นอกจากนี้ นายอนุทิน ยอมรับว่าเป็นห่วงผู้ที่กักตัวอยู่ในบ้าน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้สูงอายุ ต้องแยกกักตัวชัดเจนไม่สัมผัสบุคคลภายในบ้านทุกกรณี และเน้นย้ำไปยังกรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค หากต้องการความช่วยเหลือ ตนพร้อมช่วยเหลือทุกด้านรวมไปถึงด้านงบประมาณ ซึ่งจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
ทั้งนี้ได้ประสานกับ สปสช. ให้เข้าไปช่วยเหลือ และเตรียมพร้อม อุปกรณ์รักษาเบื้องต้น เครื่องวัดความดัน วัดออกซิเจน และ อุปกรณ์ช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินกรณีผู้ป่วยที่มีความรุนแรงแต่ยังไม่ได้เตียงในการรักษา พร้อมเร่งประสานนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นกรณีเร่งด่วน
พร้อมย้ำว่า สถานการณ์ในประเทศขณะนี้ ยังสามารถควบคุมได้เนื่องจากยังเป็นไปตามมาตรการแม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันจะสูงขึ้น แต่ตัวเลขเฉลี่ยยังอยู่ในเกณฑ์ที่คาดการณ์ไว้ และคาดว่าจากนี้ไป 2 สัปดาห์ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลง โดยโรงพยาบาลที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อจะต้องทำการรักษาหรือหากจำนวนเตียงไม่พอ จะต้องเป็นผู้ประสานหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้รับผู้ป่วย
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เสนอให้ใช้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมโรค นายอนุทินย้ำว่า ทุกคนต่างมีเงื่อนไข แพทย์อยากให้ใช้มาตรการเข้มงวด ล็อคทุกอย่างปัญหาจะจบเร็วแต่ต้องดูภาพรวมเรื่องเศรษฐกิจด้วย เพื่อประคับประคองทุกมิติให้สามารถเดินหน้าร่วมกันไปได้
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อ โควิด-19 รายใหม่ที่พุ่ง กว่า 2,000 ราย ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นมาจะอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า รัฐบาลไม่ได้ปิดบังข้อมูลตัวเลขผู้ติดเชื้อ ซึ่งตัวเลขบางพื้นที่รายงานเข้ามายังไม่ครบบางพื้นที่ยังมีปัญหาเรื่องการส่งข้อมูลเข้ามายังกระทรวงสาธารณสุขทำให้ตัวเลขสะสมเพิ่มขึ้นจำนวนมาก
สำหรับคลัสเตอร์สถานบันเทิง พยายามจะควบคุมให้ได้ ภายในสิ้นเดือนนี้ เนื่องจากการรวมกลุ่มลดลงตามมาตรการของ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ซึ่งตัวเลขในวันนี้ก็เป็นกลุ่มผู้ติดเชื้อที่มาตั้งแต่สงกรานต์ และเมื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาภายในสองสัปดาห์อาการน่าจะดีขึ้น และหากไม่มีกลุ่มก้อนใหม่เพิ่มขึ้นมาเชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ส่วนเรื่องวัคซีน ที่จะให้ประชาชนเริ่มลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนในวันที่ 1 พ.ค. นี้ ซึ่งเป็นความหวังในการรักษานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกา จะเข้ามาตามกำหนดการ ซึ่งจะส่งมอบได้ในเดือน ก.ค. ทุกอย่างต้องไปเป็นไปตามขั้นตอนความปลอดภัย จะเร่งรับไม่ได้ และผู้ที่ติดเชื้อที่ได้รักษาหายแล้ว จำเป็นจะต้องฉีดวัคซีนอีกหรือไม่ ต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมิน
@inn_news รถ รพ. เข้ารับตัวอาม่า ย่านบางคอแหลม อีก2คน ป่วยโควิด19 ไปรักษาตัวแล้ว#อาม่า#อาม่าติดโควิด#รอเตียง#โควิด19 #ติดเชื้อ#โควิด#เพจดัง#INNNews#ข่าวtiktok
ผู้ป่วยโควิด 2 ราย จากบางคอแหลม เข้ารับการรักษามีอาการปลอดภัย กทม. ประสานศูนย์ราชวิถี เร่งส่งตัวผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวเข้ารักษาก่อน
นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวกรณีการเสนอข่าวผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในซอยเจริญราษฎร์ 5 แยก 16 เขตบางคอแหลม ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากในครอบครัวมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นผู้สูงอายุ ทั้งหมด 6 ราย ก่อนหน้านี้มีรถพยาบาลมารับไปแล้ว 3 ราย ส่วนอีก 3 ราย อยู่ระหว่างรอเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
โดยเมื่อวันที่ 22 เม.ย. มีผู้สูงอายุ 1 ราย เสียชีวิตในบ้านพักว่า สำนักการแพทย์ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งนำส่งผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในครอบครัวดังกล่าวอีก 2 ราย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสิรินธร เรียบร้อยแล้ว ในช่วงเช้าของวันที่ 23 เม.ย.64
ขณะนี้ทั้ง 2 ราย มีอาการดีสัญญาณชีพปกติ ระดับออกซิเจนในเลือดปกติ และได้รับการรักษาตามมาตรฐานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมขอความร่วมมือผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรอเข้ารับการรักษาเปิดโทรศัพท์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อ และติดตามอาการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง ศูนย์เอราวัณจะร่วมกับศูนย์ราชวิถี กรมการแพทย์ เร่งดำเนินการคัดกรอง
เพื่อนำเข้าสู่ระบบการรักษาเป็นลำดับต้น ๆ ต่อไป
ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เสียชีวิตที่บ้าน สำนักการแพทย์ได้วางแนวทางสำหรับการจัดการศพ มีการซักซ้อมตามมาตรฐานเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติภารกิจจะสวมชุดและอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล โดยศพได้รับการบรรจุใส่ถุงซิปล็อก 3 ชั้น ทุกขั้นตอนจะมีการฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อภายนอกถุงตามมาตรฐาน ทางการแพทย์ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ เข้าทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อภายในบ้าน และบริเวณโดยรอบ เพื่อความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้ผู้พักอาศัยในพื้นที่ใกล้เคียง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news