Home
|
อาชญากรรม

ตร.ปรับคนไม่ใส่แมสก์แค่500บาทไม่ได้

Featured Image
ผบช.ภ.1 ยอมรับ ตร.บางปะหัน ไม่มีอำนาจสั่งปรับเงิน 500 บาท ปมจับคนไม่ใส่แมสก์  – ขับรถไม่ใส่แมสก์โดนปรับ

พลตำรวจโท อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีปรากฏภาพเอกสารค่าปรับเป็นเงิน 500 บาท ของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางปะหัน พระนครศรีอยุธยา ลงวันที่ 25 เมษายน 2564 ในความผิดฐานไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า ขณะอยู่นอกเคหสถาน หรือ ต้องติดต่อกับบุคคลอื่น หรือเดินทางไปสถานที่สาธารณะฯ

โดยกรณีจับปรับผู้ไม่สวมหน้ากากอนามัยฯ ในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรบางปะหัน ได้รับรายงานว่า เป็นเรื่องที่ คณะกรรมการอำเภอบางปะหัน มอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้านไปตรวจสอบ หลังพบว่า พ่อค้าแม่ค้าขายกะทิในตลาดสดแห่งหนึ่งไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยซึ่งขัดกับคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงนำตัวมาส่งพนักงานสอบสวนให้เปรียบเทียบปรับ

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ยอมรับว่า พนักงานสอบสวน เข้าใจไปว่า มีอำนาจตามกฎหมายควบคุมโรคให้สามารถเปรียบเทียบปรับได้เอง จึงสั่งปรับเป็นเงิน 500 บาท แต่ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้แย้งไปว่า กรณีนี้พนักงานสอบสวน ต้องปรับในอัตราขั้นต่ำเป็นเงิน 6,000 บาท เพราะตามกฎหมายควบคุมโรคติดต่อและตามประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัด อัตราโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท พนักงานสอบสวนไม่สามารถปรับเป็นเงิน 500 บาทได้ ดังนั้น ในกรณีนี้ ผู้ถูกกล่าวหา ขอให้พนักงานสอบสวน ทำสำนวนส่งฟ้องศาลแขวง เพื่อให้ศาลฯใช้ดุลยพินิจในการสั่งปรับแทน ซึ่งผู้ถูกกล่าวหา เชื่อว่า น่าจะปรับได้ต่ำกว่าเงิน 6,000 บาท ดังนั้น กรณีนี้จึงใช้อำนาจของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 สั่งเพิกถอนการเสียค่าปรับ 500 บาท ไปแล้ว โดยให้ส่งศาลฯพิจารณา ไปแล้ว พร้อมตำหนิพนักงานสอบสวนที่จะไปโดยพละการ ซึ่งจากนี้ จะกำชับไปยังตำรวจภูธร 9 จังหวัดที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ให้ปฏิบัติเป็นไปตามแนวทางเดียวกันแล้ว

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ยังกล่าวถึงกรณีมีคำถามเกี่ยวกับการขับรถยนต์คนเดียวโดยไม่สวมหน้ากากอนามัยเข้าข่ายความผิดกฎหมายไหม ซึ่งหากตีความตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ถือว่าผิด เพราะแม้ว่า จะอยู่ในรถยนต์ส่วนตัว แต่คำสั่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติตาม เพื่อให้เป็นการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อ จึงไม่ต้องการให้ประชาชนตีความเป็นอย่างอื่น เพราะหากมีความผิดตำรวจก็จำเป็นจะต้องดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.อำพล ยืนยันว่า ตำรวจมีการใช้ดุลยพินิจ ไม่ใช่จ้องที่จะเข้าไปจับปรับผู้ที่ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัยอย่างเดียว แต่ดูที่เจตนา หรือกรณีมีการกระทำความผิด หรือได้รับการร้องเรียน ว่ามีการฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัยบ่อยครั้งในพื้นที่สาธารณะ ตำรวจจึงจะเข้าไปบังคับใช้กฎหมาย

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube