ปาร์ตี้ส้มตำทำเพื่อนบ้านติดโควิด14คน
คลัสเตอร์ ทำงานในสถานบริการย่านรัชดาแพร่โควิด 19 ในหมู่บ้านเฟื่องฟ้า 10 จ.สมุทรปราการ ทำเพื่อนบ้านติด 14 ราย
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย.64 เวลาประมาณ 13.00 น.ตามที่ปรากฏในเพจเฟสบุ๊ค “ข่าวสารเมืองปราการ v2” มีข้อความระบุว่า จับตาคลัสเตอร์ เฟื่องฟ้า 10 ซอยมังกร ติดเชื้อแล้วหลักสิบ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก จ.สมุทรปราการ ยังปิดปากเงียบ ยังไม่เผยไทม์ไลน์ ต่อมา พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านเฟื่องฟ้า 10 ซอยมังกร-นาคดี ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านหลังสีชมพู เลขที่ 163/103 หมู่บ้านเฟื่องฟ้า 10 (แยก 7) ซอยมังกร-นาคดี ม.5 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบชายอายุ 37 ปี แจ้งว่าเป็นผู้พักอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว โดยภายในบ้านมีผู้พักอาศัยอยู่ในขณะนี้ 4 คน เป็นภรรยาของชายวัย 37 ปี พร้อมบุตรอีก 2 คน
ส่วน มารดาของ ชายวัย 37 ปี ผลการตรวจ พบเชื้อโควิด 19 จึงได้ถูกส่งตัวเข้ารักษายัง รพ.สมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.64 ส่วน พ่อ แม่ ลูก 4 คน ไม่ปรากฏอาการ ซึ่งทั้งหมดได้เคยไปขอรับการตรวจหาเชื้อแล้ว แต่ทางรพ.แจ้งว่า ทั้ง 4 คนยังไม่มีอาการ จึงให้ชะลอการตรวจออกไปก่อน
จากการสอบถาม ชายวัย 37 ปี ให้ข้อมูลว่า นางซิ้ม มารดาของตนมีอาการตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.64 จึงได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่ รพ.สมุทรปราการ ทราบผลตรวจว่าติดเชื้อเมื่อวันที่ 25 เม.ย.64 จึงเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.สมุทรปราการ ในวันเดียวกัน โดยจากการสันนิษฐานน่าเชื่อว่า มารดาจะรับเชื้อมาจากการร่วมรับประทานอาหารกับเพื่อนบ้าน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยัง นายชนินทร์ จินดารัตน์ ผอ.รพ.สต.มังกรทอง ซึ่งดูแลรับผิดชอบหมู่บ้านเฟื่องฟ้า 10 พบข้อมูลว่า จากสอบสวนโรคพบว่าขณะนี้มีผู้ติดเชื้อภายในหมู่บ้านเฟื่องฟ้า 10 จำนวน 14 ราย โดยเริ่มมาจากผู้พักอาศัยภายในซอย 6 ซึ่งมีคนในบ้านทำงานอยู่สถานบริการย่านรัชดาฯ และนำมาติดคนในบ้าน รวม 4 คน จากนั้นบุคคลในบ้านดังกล่าวได้ร่วมรับประทานอาหาร(ส้มตำ) กับเพื่อนบ้าน จนทำให้มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 14 คน โดยขณะนี้ผู้ป่วยทั้งหมดได้ถูกนำตัวเข้ารักษายังสถานพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news