Home
|
เศรษฐกิจ

โควิดระลอก3ฉุดยอดจดตั้งธุรกิจพ.ค.

Featured Image
กระทรวงพาณิชย์ เผย จดทะเบียนธุรกิจ พ.ค. ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 7% เหตุจากโควิด-19 ระลอก 3 กระจายวงกว้าง

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2564 พบว่า มีผู้ประกอบการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศรวมจำนวน 5,568 ราย เพิ่มขึ้น ร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีมูลค่าทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 21,513 ล้านบาท โดยธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้า และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ ลดลง ร้อยละ 7 เป็นผลมาจากการระบาดระลอก 3 ของโควิด-19 ที่กระจายเป็นวงกว้าง และมีคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจลดลง

โควิดระลอก3ฉุดยอดจดตั้งธุรกิจพ.ค.

 

แต่จากมาตรการการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 นับตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ที่มีจำนวนประชาชนผู้ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการมีนโยบายในการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ที่มีความพร้อมจากจำนวนประชาชนผู้ได้รับวัคซีนที่เพียงพอ และมาตรการที่รัดกุมในเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ เช่น โครงการคนละครึ่งเฟส 3 โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ที่จะเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ เช่น มาตรการ “สินเชื่อ ฟื้นฟู” มาตรการ “พักทรัพย์ พักหนี้” ของธนาคารแห่งประเทศไทย โครงการ “จับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับร้านอาหาร” ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ หรือเข้าถึงสถาบันการเงิน โดยมีดอกเบี้ยราคาพิเศษ และปลอดหลักทรัพย์ในบางกรณี น่าจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในครึ่งปีหลังฟื้นตัวขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีผู้ประกอบการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่รวมจำนวนทั้งสิ้น 34,929 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 และปัจจุบันประเทศไทยมีธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 799,881 ราย มูลค่าทุน 19.54 ล้านล้านบาท

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube