ศบค.เตรียมพร้อมฉีดวัคซีนเด็กอายุ 12-17ปี สปสช.จัดสรรชุดตรวจ ATK ให้ กทม.2.41ล้านชิ้น เตือน ประชาชนเข้มมาตรการป้องกัน
นายแพทย์เศวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ในภาวะฉุกเฉินกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับติดตามและประเมินผลมาตรการด้านการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่ กทม. ว่า ในส่วนของการฉีดวัคซีนถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายแต่ยังมีส่วนที่กำชับในภาคของโรงพยาบาลเอกชนให้ดำเนินการต่อเนื่องตามแผนที่ได้กำหนดไว้ส่วนหลังจาก มีการผ่อนคลายมาตรการให้เปิดกิจการต่างๆตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. เป็นต้นมา ได้ย้ำให้ กทม.ต้องติดตาม ประเมินผลอย่างใกล้ชิด โดยสื่อสารในเรื่องการเตรียมความพร้อม ด้าน Covid free setting ที่มีหลายร้านขึ้นป้ายว่าพนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ ทุกคนฉีดวัคซีนครบแล้ว ซึ่งทำให้ผู้ไปใช้บริการเกิดความมั่นใจ
นอกจากนี้ ยังได้มีการเตรียมพร้อม ฉีดวัคซีนการฉีดวัคซีนในกลุ่มอายุนักเรียน 12-17 ปี ตามเป้าหมาย 4 แสนกว่าคน โดยโรงเรียนทุกสังกัดสามารถเข้าถึงได้และเร่งฉีดวัคซีนให้กับแคมป์ก่อสร้าง ที่ สำนักงานประกันสังคม ได้ดำเนินการฉีดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จำนวน 61,841 ราย รวม 606 แคมป์ และคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในวันที่ 10 ก.ย.นี้ สำหรับแคมป์ก่อสร้างที่ไม่ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดในเรื่องของการแพร่ระบาดควรมีมาตรการลงโทษปรับตามกฎหมายโดยให้สำนักงานอนามัย กทม.เสนอคณะกรรมการโรคติดต่อ ต่อไป
ทั้งนี้ ในการเฝ้าระวัง ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงทางแรงงานต่างด้าว เพื่อให้แน่ใจว่ามีผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้เจอ และไม่ได้มีมาตรการแยกกัก อยู่หรือไม่
ขณะที่ ประเด็นชุดตรวจ ATK ด้วยตน ที่ประชาชนให้ความสนใจ นั้น กทม.ได้ประสานกับทาง สปสช. ซึ่งจะได้รับการจัดสรรจำนวน 2,410,300 ชิ้นโดยคณะกรรมการเห็นชอบให้กระจายไปสู่ประชาชน 6 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ชุมชนจัดตั้ง 2,016 ชุมนุม ตลาด ร้านอาหาร มินิมาร์ท แผงลอย ขนส่งสาธารณะครูโรงเรียนทุกสังกัด 1,351 แห่ง บริการนวด ร้านเสริมสวย และกลุ่มเปราะบาง
อย่างไรก็ตาม แม้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จะยังอยู่ในทิศทางที่ลดลงต่อเนื่อง แต่อยากให้ประชาชนได้ดำเนินการในเรื่องมาตรการป้องกันตนเองสูงสุดอย่างต่อเนื่องต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news