สมาคมผู้ประกอบการรถตู้สาธารณะ ร้องกระทรวงคมนาคมขอเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ขยายอายุรถ พร้อมชดเชย 5,000บาท 3 เดือน
นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังหารือและรับหนังสือขอให้ช่วยเหลือเยียวยาจาก นายปรีดา มากมูลผล นายกสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด นายวุฒิภัทร คงมั่น ประธานสมาพันธ์รถตู้แห่งประเทศไทย และผู้แทนสมาคมผู้ประกอบการรถตู้สาธารณะ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ว่า ตัวแทนสมาคมผู้ประกอบการรถตู้สาธารณะ ได้มาพบเพื่อยื่นหนังสือขอให้กระทรวงฯ พิจารณาให้ความช่วยเหลือเยียวยาสมาชิกผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะขนาดเล็ก (รถตู้และรถมินิบัส) ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ดังนี้
1. ขอให้เยียวยาเรื่องการพักหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยของสถาบันการเงินและไฟแนนซ์ให้แก่ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะและรถมินิบัสทุกรายจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเป็นปกติ
2. ขอขยายอายุรถ 10 ปี ที่หมดภาษีในรอบปี 2564 ให้สามารถต่อภาษีรอบปี 2565 อีก 1 ปี
3. ติดตามเรื่องเงินเยียวยาที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะชดเชยให้รถสาธารณะเดือนละ 5,000 บาทต่อคัน เป็นเวลา 3 เดือน รวมเป็นเงิน 15,000 บาทต่อคัน ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 รอบแรก ปี 2563 ที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง
4. การคัดเลือกบริษัท GPS ติดตามรถยนต์ ขอให้คัดเลือกบริษัทที่คิดค่าบริการไม่แพง
5. ขอให้เรียกเก็บค่าปรับต่าง ๆ ตามกฎหมายในอัตราต่ำสุดและเป็นธรรม และไม่เรียกเก็บซ้ำซ้อนระหว่าง ขบ. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นและไม่ได้นิ่งนอนใจโดยเร่งดำเนินการในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนสำหรับปัญหาที่อยู่นอกเหนือจากความรับผิดชอบของกระทรวงฯ จะทำเป็นข้อสรุปประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้ ขบ. พิจารณาข้อเสนอของสมาคมฯ ซึ่ง ขบ. ได้เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ผู้ที่มีใบขับขี่หมดอายุในช่วงนี้ สามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 โดยที่ไม่มีความผิดใด ๆ และมอบหมายให้ ขบ. นัดหารือร่วมกับ ขสมก. และ บขส. เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news