กรมชลประทาน เดินหน้าติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มอีก 100 เครื่อง เร่งระบายน้ำในลำน้ำมูลลงโขง
ปริมาณฝนที่ตกชุกและหนาแน่นจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน เตี้ยนหมู่ และ คมปาซุ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำน้ำสายต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น เอ่อล้นตลิ่งในแม่น้ำมูลและแม่น้ำชี กระทบต่อพื้นที่การเกษตรที่ลุ่มต่ำและพื้นที่ชุมชนริมน้ำบางแห่ง ศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) เตรียมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในลำน้ำมูลเพิ่มอีก 100 เครื่อง เร่งระบายน้ำลงแม่น้ำโขงให้เร็วขึ้น ตามข้อสั่งการของนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน
ดร.วัชระ เสือดี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านบำรุงรักษา) กรมชลประทาน ในฐานะประธานศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้ปรับแผนการจัดจราจรน้ำในลุ่มน้ำชี – มูล เพื่อลดผลกระทบจากมวลน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำมูลและแม่น้ำชี ที่มีแนวโน้มจะเพิ่งสูงขึ้นอีกในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้
จากอิทธิพลของพายุคมปาซุ และมวลน้ำชุดแรกที่ไหลมาจากจังหวัดนครราชสีมา ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำมูลบริเวณสถานีวัดน้ำ M.7 บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,384 ลบ.ม./วินาที อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริม 2 ฝั่งแม่น้ำมูลในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี และเทศบาลเมืองวารินชำราบ
กรมชลประทาน ได้วางแนวทางในการจัดจราจรน้ำแม่น้ำชี-มูล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำให้ไหลลงสู่แม่น้ำโขงให้เร็วขึ้น ป้องกันไม่ให้มวลน้ำก้อนใหญ่ของทั้ง 2 ลำน้ำไหลมาบรรจบกัน ซึ่งอาจจะสร้างผลกระทบมากกว่าที่เป็นอยู่ ด้วยการเร่งระบายน้ำก้อนใหญ่ในแม่น้ำมูลไปลงแม่น้ำโขงก่อนเป็นลำดับแรก และเมื่อน้ำก้อนใหญ่จากแม่น้ำชี จะไหลผ่านสถานี M.7 จึงจะเริ่มหน่วงน้ำในลำน้ำมูลตอนบน เพื่อลดยอดปริมาณน้ำสูงสุดที่จะไหลผ่านในเขตจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนเร่งระบายลงสู่แม่น้ำโขงโดยเร็วต่อไป
“ศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) และสำนักเครื่องจักรกล ได้วางแผนติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติมอีก จำนวน 100 เครื่อง บริเวณสะพานพิบูลมังสาหาร อ.พิบูลมังสาหาร เพื่อเร่งผลักดันน้ำให้ไหลผ่านแก่งสะพือได้เร็วยิ่งขึ้น สำหรับเตรียมพื้นที่ไว้รองรับน้ำที่จะหลากลงมาอีกในระยะต่อไป จากเดิมที่ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำไปแล้ว 100 เครื่อง
พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมความพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ ที่สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที รวมไปถึงการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญได้เน้นย้ำให้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนข้อมูลสถานการณ์น้ำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำชี แม่น้ำมูล และลำน้ำสาขาอย่างต่อเนื่อง หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา” ดร.วัชระฯ กล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news