กระทรวงพาณิชย์ เผย สถิติจดทะเบียนธุรกิจ ก.ย. เพิ่ม 3% และ Q3 เพิ่ม 1% ปรับตามพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงช่วงโควิด-19
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงเดือนกันยายน 2564 พบว่า มีผู้ประกอบการขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ จำนวน 5,820 ราย เพิ่มขึ้น 184 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวนกว่า 13,973 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสารตามลำดับ
ในขณะที่การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงไตรมาส 3/2564 มีจำนวน 17,034 ราย ลดลงจำนวน 599 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับในช่วงไตรมาสที่ 2/2564 แต่ เพิ่มขึ้น 193 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับในช่วงไตรมาสที่ 3/2563 โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 39,350 ล้านบาท
โดยหากพิจารณาจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในไตรมาสที่ 3/2564 ในบางธุรกิจสอดรับกับพฤติกรรมของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไปจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น ธุรกิจสร้างแม่ข่าย มีจำนวนจัดตั้งใหม่ทั้งสิ้น 172 ราย เพิ่มขึ้น 6 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และธุรกิจปลูกพืชประเภทเครื่องเทศ เครื่องหอม ยารักษาโรค และพืชทางเภสัชภัณฑ์มีจำนวนจัดตั้งใหม่ทั้งสิ้น 44 ราย เพิ่มขึ้น 4 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริมให้โรงพยาบาลของรัฐนำสมุนไพรมาใช้ในการรักษาโรคควบคู่กับการใช้ยาแผนปัจจุบัน การปลดล็อกกัญชงให้สามารถขออนุญาตปลูก ผลิต นำเข้าเมล็ดพันธุ์ ครอบครอง และจำหน่ายได้ รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้มูลค่าการบริโภคสมุนไพรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการที่มองเห็นช่องทางในการปรับเปลี่ยนธุรกิจจึงหันมาจัดตั้งธุรกิจประเภทนี้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ และจำนวนผู้ได้รับวัคซีนในประเทศที่เพียงพอ รวมทั้งนโยบายการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จะเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นที่ดีในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ผู้ประกอบธุรกิจจึงควรปรับตัว และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news