กรมชลประทานเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง ดินถล่ม ใน 8 จังหวัดภาคใต้ ช่วงวันที่ 23-25 พ.ย.นี้
กรมชลประทาน ติดตั้งเครื่องจักร เครื่องมือ ช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ เฝ้าระวัง สภาพอากาศจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2564ภาคใต้จะมีฝนตกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ บูรณาการร่วมกับศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ (ONE MAP)ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และข้อมูลฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ รวมทั้งพื้นที่เคยเกิดน้ำหลากและน้ำล้นตลิ่งในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำหลากดินถล่ม ในช่วงวันที่ 23 – 25 พฤศจิกายน 2564 บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,ชุมพร ,สุราษฎร์ธานี ,นครศรีธรรมราช, พัทลุง ,สงขลา ,ระนอง , ตรัง และสตูล พร้อมกับเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำในภาคใต้ บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ ระนอง ภูเก็ต และตรัง อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ได้สั่งการให้ สำนักงานชลประทานที่ 14 – 17 คอยติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ ทั้งนี้ หากในพื้นที่เกิดสถานการณ์น้ำหลากขอให้แจ้งข้อมูลกลับในกลุ่มไลน์เครือข่ายศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อจะได้ดำเนินการเข้าไปให้ความช่วยเหลือต่อไป และปรับแผนบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 หรือเกณฑ์ควบคุมสูงสุด (Upper Rule Curve) ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ พร้อมพิจารณาบริหารจัดการเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำและเร่งระบายน้ำในลำน้ำ แม่น้ำ ให้สอดคล้องกับการขึ้น – ลงของระดับน้ำทะเล รวมทั้งใช้พื้นที่ลุ่มต่ำเป็นแก้มลิงหน่วงน้ำและรองรับน้ำหลาก
อย่างไรก็ตาม จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทางภาคใต้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่กรมชลประทานได้เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก อาทิ เตรียมความพร้อมบุคลากรเครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที โดยการขุดเปิดทางระบายน้ำให้สามารถไหลได้ดีขึ้น รวมทั้งติดตั้งเครื่องจักร เครื่องมือต่างๆเพื่อช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วม ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัยในภาคใต้ 6 จังหวัด กรมชลประทานได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำรวม 71 เครื่อง เครื่อง Hydroflow 8 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 52 เครื่อง พร้อมบูรณาการร่วมกับจังหวัดในการประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำและแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์ ตามประกาศของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news