กระทรวงแรงงาน ลดอัตราดอกเบี้ยกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน ปี 65 เหลือ 0% นาน 12 งวด ยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31ส.ค. 65
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 กระทรวงแรงงานได้อนุมัติวงเงินกู้ยืม จำนวน 5,000,000 บาท เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับแรงงานนอกระบบที่เป็นผู้รับงาน และกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนถูกกฎหมาย ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบซ้ำเติมในสถานการณ์โควิด ซึ่งในปีนี้มีมาตรการช่วยเหลือโดยลดอัตราดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0 ต่อปี ในงวดที่ 1 -12 โดยมีเป้าหมายปล่อยกู้เงินกองทุนฯ จำนวน 44 กลุ่ม สำหรับผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 64 – 31 ส.ค. 65 และทำสัญญากู้ยืมเงิน ภายใน 30 ก.ย. 65
นายสุชาติ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยแรงงานนอกระบบที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยกำชับตนให้ดูแลคนกลุ่มแรงงานนอกระบบให้ได้รับการเยียวยาอย่างทั่วถึง เข้าถึงโอกาสและได้รับความเสมอภาคทางสังคม รวมทั้งส่งเสริมอาชีพ และการมีงานทำ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งกระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ได้ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0 ต่อเนื่องมาปีนี้เป็นปีที่ 3 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้รับงานไปทำที่บ้าน
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า สำหรับคุณสมบัติผู้กู้จะต้องเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้าน หรือมีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน ซึ่งมีทั้งประเภทบุคคลและกลุ่มบุคคล โดยประเภทบุคคลต้องมีทรัพย์สินหรือเงินทุนไม่น้อยกว่า 5,000 บาท
ส่วนประเภทกลุ่มบุคคลจะต้องมีผู้นำกลุ่มและสมาชิกกลุ่มกู้ร่วมกันไม่น้อยกว่า 5 คน มีทรัพย์สินหรือเงินทุนในการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มรวมกันไม่น้อยกว่า 10,000 บาท รายบุคคลกู้ได้ไม่เกิน 50,000 บาท ระยะเวลาชำระคืนภายใน 2 ปี และรายกลุ่มบุคคลไม่เกิน 300,000 บาท ระยะเวลาชำระคืนภายใน 5 ปี ผู้ที่สนใจกู้ยืมเงินกองทุนฯ ตรวจสอบคุณสมบัติและยื่นคำขอกู้เงินได้ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพฯพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัด ในท้องที่ที่ผู้รับงานไปทำที่บ้านได้จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางานภายใน 31 ส.ค.65 ทำสัญญากู้ยืมให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.65
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news