กระทรวงพาณิชย์ เผยธุรกิจสัตว์เลี้ยง อาหารสัตว์ และอุปกรณ์ เติบโตก้าวกระโดด แตะ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี มีโอกาสเติบโตอีกมาก คู่แข่งในตลาดยังมีน้อย
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันแนวโน้มการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป จากที่เคยเลี้ยงแบบลักษณะความเป็นเจ้าของ หรือ Ownership กลายเป็นการเลี้ยงแบบความผูกพันเสมือนคนในครอบครัว หรือ Pet Parent และต้องการเลือกสิ่งที่ดีมีคุณภาพให้กับสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร สิ่งของเครื่องใช้ และบริการต่างๆ ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจขายปลีกสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภาพรวมผลประกอบการธุรกิจฯ ตลอด 3 ปี (2561 – 2563) ที่ผ่านมา พบว่า มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นแตะหนึ่งหมื่นล้านบาทต่อปี สอดรับกับตัวเลขส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยไปทั่วโลก ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ 2560 – 2563 ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของการแข่งขันพัฒนาอาหารสัตว์ให้มีคุณภาพสูงขึ้น และทำการตลาดสินค้าราคาแพง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า และเติมเต็มคุณค่าทางใจเมื่อเกิดการใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยง
โดยธุรกิจขายปลีกสัตว์เลี้ยงฯ ในประเทศไทยมีโอกาสเติบโตอีกมาก คู่แข่งในตลาดยังมีน้อย อีกทั้ง แนวโน้มความต้องการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ เนื่องจากจำนวนครอบครัวเดี่ยวและคนโสดเพิ่มมากขึ้น คู่สมรสมีบุตรน้อยลงและคนไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่ใช้ชีวิตหลังเกษียณอยู่บ้านจึงมองหาสัตว์เลี้ยงมาเป็นเพื่อน พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปมีการทำงานที่บ้าน (WFH) มากขึ้น ทำให้มีเวลาใส่ใจดูแลบ้านและสัตว์เลี้ยง
ด้านนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน มีผู้ประกอบการในธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลและดำเนินกิจการอยู่ จำนวน 480 ราย ทุนจดทะเบียน 2,559.35 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจขนาดเล็ก (S) 443 ราย ธุรกิจขนาดกลาง (M) 31 ราย และ ขนาดใหญ่ (L) 6 ราย ส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจอยู่ในกรุงเทพมหานครมากที่สุด 195 ราย ขณะที่การลงทุนของชาวต่างชาติในธุรกิจนี้มีแนวโน้มลดลง ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของคนไทย มูลค่ากว่า 2,482.34 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่า อัตราการเจริญเติบโตต่อปี ของตลาดอาหารสัตว์ในประเทศไทย ปี 2564-2569 จะเติบโตขึ้นร้อยละ 5.2
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news