รมว.คลัง ระบุ ปี 66 เศรษฐกิจจะฟื้นตัวชัดเจน พร้อมดูแลการบริโภคภาคประชาชน จีดีพีปีนี้โตได้อย่างน้อย 1%
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในการเปิดงาน Thailand Smart Money Bangkok ครั้งที่ 12 ว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยหลังจากต้องเผชิญวิกฤตหลายระลอก เชื่อว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วงต้นปี 2566 ในขณะที่ภาคธุรกิจเองอาจต้องใช้เวลานานถึง 3 ปีในการฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจในปีนี้เชื่อว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 1 จากการใช้จ่ายเงินภาครัฐ ภาคการส่งออกที่เป็นภาคการผลิตที่เพิ่มรายได้ให้กับประเทศ โดยสถานการณ์การฉีดวัคซีนที่ดีขึ้นทำให้สถานการณ์ในประเทศดีขึ้น หลังการเปิดประเทศ ภาคประชาชนให้ความร่วมมือในการป้องกัน ทำให้การแพร่ระบาดของโควิด-19ลดลงและการจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีส่วนช่วยไม่ให้เกิดการรวมตัวของคนจำนวนมาก ทำให้ความเสี่ยงลดลง
อย่างไรก็ตาม เวลานี้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มปรับตัวสูงขึ้น รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการเติบโตของการใช้จ่ายภาคประชาชน ผ่านโครงการเราชนะ คนละครึ่ง ช็อปดีมีคืน ซึ่งจะช่วยทำให้ประชาชนมั่นใจในการใช้จ่ายมากขึ้น เป็นเครื่องมือที่สำคัญ ในการฟื้นเศรษฐกิจเนื่องจากการบริโภคคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 50 ของ GDP โดยกำลังซื้อที่หายไปต้องกลับไปสนับสนุนให้เพิ่มขึ้น
โดยในปี 2565 คาดว่าเศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 4 จากเครื่องยนต์การส่งออกที่คาดว่าจะยังเติบโตต่อเนื่อง เม็ดเงินจากการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้เป้าหมาย 5 ล้านคน จะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัว ที่จะต้องใช้เวลา 2-3 ปี
โดยมาตรการช่วยเหลือภาคประชาชนในปีหน้า รวมถึงมาตรการภาษีต่างๆ จะมีการสานต่อโครงการหรือไม่ จะต้องมีการติดตามจากสถานการณ์จริง หากเศรษฐกิจดีขึ้นมาตรการการคลังจะเริ่มลดน้อยลง เพื่อให้กลไกตลาดของภาคเอกชนได้ทำงาน แต่ก็จะมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ในขณะที่โครงการบัตรสวัสดิการรอบใหม่อาจต้องมีการทบทวนการถือบัตรซึ่งเป็นการดูแลในระดับฐานราก และสำหรับในเรื่องของฟินเทค ภาครัฐจะมีการกำกับดูแลเพื่อไม่ให้กระทบกับระบบการเงินของประเทศ และกระทบต่อประชาชนผู้บริโภค เชื่อว่าในปีหน้าจะมีการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นเกี่ยวกับสถาบันการเงิน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
