รมว.คลัง เผย ครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจปี65 มั่นใจโตได้4% ขณะคนละครึ่งเฟส3ยังค้างอีก 1 หมื่นล้าน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึง มาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ปี 2565 ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ประกอบด้วย มาตรการเพิ่มกำลังซื้อภาคประชาชน ได้แก่ โครงการช้อปดีมีคืน โดยให้นำรายจ่ายการซื้อสินค้าและบริการ มาหักลดหย่อนภาษี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.2565 จะมีผลต่อการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มูลค่า 6,200 ล้านบาท แต่คาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 42,000 ล้านบาท
ส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจร้อยละ 0.12 และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทั่วไป เข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีโครงการคนละครึ่งเฟส 4 โดยจะให้เริ่มต้นวันที่ 1 มี.ค.- 30 เม.ย.2565 โดยวงเงินกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งจะรอสิ้นสุดมาตรการในเฟส 3 ก่อน โดยจะเห็นวงเงินที่เหลือ ซึ่งเวลานี้ยังมีวงเงินไม่ได้ใช้จ่ายประมาณ 10,000 ล้านบาท และจะต้องมีการเคลียระบบเพื่อให้คล่องตัวมากขึ้น เนื่องจากผ่านมา 3 เฟสร้านค้าบางแห่งไม่มีความเคลื่อนไหวแล้ว
มาตรการลดภาระประชาชน ได้แก่ โครงการยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค.2565 ให้ผู้ประกอบการรายเดิม ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และต้องการขออนุญาตขายต่อเนื่องในปีถัดไป คาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิ์ประมาณ 800,000 ราย คิดเป็นใบอนุญาต 1.4 ล้านใบ โดยรัฐจะสูญเสียรายได้จากค่าธรรมเนียม 380 ล้านบาท
มาตรการขยายการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิต น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน อัตราภาษีตามปริมาณ 0.20 บาทต่อลิตร ออกไปอีก 6 เดือน โดยเริ่มมตั้งแต่ 1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 2565 เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจสายการบิน ให้สามารถฟื้นฟูและกลับมาดำเนินธุรกิจได้โดยเร็ว ทั้งนี้คาดว่าการท่องเที่ยวในปี 2565 ธุรกิจสายการบินจะกลับมาดำเนินธุรกิจได้ ราวร้อยละ 50 ของการท่องเที่ยวเมื่อปี 2562 ซึ่งมาตรการดังกล่าว คาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้ประมาณ 860 ล้านบาท
มาตรการขยายระยะเวลาการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระที่ต้องการมีอยู่อาศัยเป็นของตนเอง ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยลดค่าจดทะเบียนการโอนและจดจำนอง จากเดิมร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 และค่าจดทะเบียนออกไปอีก 1 ปี ไปสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.2565 คาดว่าจะทำให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นสูญเสียรายได้ 4,946 ล้านบาท
มาตรการการเงิน โครงการของขวัญปีใหม่ปี 2565 ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ โดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ได้จัดทำของขวัญปีใหม่ปี 2565 เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่อง ลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและเสริมสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ เช่น โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การคืนเงินลูกหนี้ธนาคารที่มีประวัติการชำระดี การยกเว้นค่าธรรมเนียมนิติกรรมสัญญาและค่าประเมินหลักประกันส่วนลดค่าบริการและค่างวดสำหรับการค้ำประกันสินเชื่อ เป็นต้น ทั้งนี้ คิดเป็นวงเงินสินเชื่อรวม 25,000 ล้านบาท การคืนเงินและรางวัลพิเศษรวม 1,335 ล้านบาท การลดอัตราดอกเบี้ยรวม 4,700 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามมั่นใจว่า เศรษฐกิจของประเทศเมื่อผ่านมาตรการกระตุ้นต่างๆแล้วจะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 4 ซึ่งก็เป็นไปตามแนวทางเดียวกันกับหลายหน่วยงานที่ได้มีการประเมินก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ยังได้มีการกำชับในเรื่องของการดูแลลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วแต่ความรุนแรงยังคงต้องรอการพิสูจน์ โดยเวลานี้มีการปรับมาตรการดูแลของ ศบค. ในการรับนักท่องเที่ยว โดยยังคงมีการเปิดประเทศอยู่จำเป็นที่ประชาชนและภาคธุรกิจต่างๆจะต้องร่วมมือกันในการป้องกันเพื่อที่จะให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวหรือร้านอาหาร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews