“กรมเจ้าท่าแจงเรือคลองแสนแสบปรับขึ้นราคา” เหตุจากดีเซลปรับสูงขึ้นเกินลิตรละ 25 บาท พร้อมเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาลดผลกระทบประชาชน
ตามที่ได้มีการเสนอข่าวเรือคลองแสนแสบปรับขึ้นราคาอีก 1 บาท และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2565 นั้น กรมเจ้าท่า ขอชี้แจงจากเดิมในสถานการณ์ปกติจะมีประกาศคณะกรรมการเรือประจำทาง ปี 2559 กำหนดให้ค่าโดยสาร สามารถปรับขึ้นลงตามอัตราราคาน้ำมัน ซึ่งในเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันอยู่ที่ 24 บาท และมีอัตราค่าโดยสารของเส้นทางคลองแสนแสบ เริ่มต้นที่ 8 บาท แต่ด้วยสถานการณ์ในช่วงโควิด-19 ระบาด รัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติงานอยู่ที่บ้านและขอความร่วมมือลดการเดินทางโดยไม่จำเป็น ส่งผลให้ยอดผู้โดยสารเรือคลองแสนแสบ ลดลงอย่างมาก เหลือเพียงร้อยละ 10 ต่อวัน ทำให้การเดินเรือประจำทางประสบภาวะขาดทุนอย่างหนักและไม่สามารถเดินเรือได้ตามปกติ
นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว บริษัทครอบครัวขนส่ง จำกัดผู้ดูแลการให้บริการเรือคลองแสนแสบ ได้ประสานและขออนุญาตกรมเจ้าท่าปรับขึ้นราคาจากเดิมเริ่มต้นที่ 8 บาท ปรับเป็นเริ่มต้นที่ 9 บาทตามประกาศกรมเจ้าท่าที่ 68/2563 เรื่อง กำหนดอัตราค่าโดยสารเรือกลประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นการเฉพาะและชั่วคราวตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยก่อนหน้านี้ บริษัทครอบครัวขนส่ง จำกัด ให้ความร่วมมือไม่ปรับขึ้นค่าโดยสารเพื่อช่วยลดภาระของผู้โดยสารแต่จากสถานการณ์ปัจจุบันราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นเกินกว่าลิตรละ 25 บาท และตามเกณฑ์กรอบอัตราค่าโดยสารที่กรมเจ้าท่าได้กำหนดไว้ จึงสามารถจัดเก็บ ได้ที่ 9 บาท เป็นราคาที่สอดคล้องตรงกับประกาศกรมเจ้าท่าที่ 68/2563
ทั้งนี้ การเก็บค่าบริการเริ่มต้นเพิ่มอีก 1 บาทจะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถเดินเรือประจำทางได้ตามกฎหมายที่กำหนดไว้ และกรมเจ้าท่าจะพยายามหาแนวทางในการแก้ไขปัญหากับภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อลดผลกระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด และหากสถานการณ์ปรับเปลี่ยนหรือราคาน้ำมันปรับลดลง จะให้ผู้ประกอบการปรับลดอัตราค่าโดยสารลง เพื่อให้กระทบกับประชาชนที่เดินทางสัญจรทางน้ำน้อยที่สุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews