พาณิชย์เปิด 10 ธุรกิจน่าจับตามองปี65 ส่วนใหญ่ปรับตามพฤติกรรมผู้บริโภค แนะ ลงทุนต้องศึกษารอบคอบ
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายครั้งในประเทศไทยทำให้ภาคธุรกิจต่างได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมเป็นอย่างมาก เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักลงชั่วคราวจากการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคฯ ประกอบกับประชาชนมีการปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตหลายด้านทำให้การใช้จ่ายเกิดการชะลอตัว และมีความระมัดระวังเรื่องการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ และกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศโดยรวม ทำให้ธุรกิจกลับมาประกอบธุรกิจและขยายการลงทุนอีกครั้ง ผู้ประกอบการทั้งรายเก่าและรายใหม่ต่างหันมาประกอบธุรกิจที่สอดรับกับการใช้ชีวิตยุค New Normal มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ธุรกิจผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร และธุรกิจจำหน่ายสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์
และปี 2565 การประกอบธุรกิจยังคงยึดโยงกับพฤติกรรมผู้บริโภคและตอบสนองความต้องการของคนยุคใหม่เป็นหลัก กระทรวงพาณิชย์ โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ทำการวิเคราะห์ธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ และถือเป็นธุรกิจดาวเด่นที่น่าจับตามองในปี 2565 จำนวน 10 ธุรกิจ โดยได้ทำการวิเคราะห์จากข้อมูลทางธุรกิจของกรมฯ ตั้งแต่สถิติจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ จำนวนธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ สถานที่ตั้ง งบการเงิน ผลการประกอบธุรกิจ และข้อมูลปัจจัยทางธุรกิจและเศรษฐกิจอื่นๆ พบว่า 10 ธุรกิจ ที่น่าจับตามองปี 2565 ประกอบด้วย
1. ธุรกิจ e-Commerce ได้แก่ ธุรกิจการค้าปลีกออนไลน์และแพลตฟอร์มเพื่อการค้าออนไลน์ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผู้บริโภคไม่สามารถออกมาจับจ่ายใช้สอยในร้านค้าและสถานบริการได้ตามปกติ
2. ธุรกิจด้านขนส่ง โลจิสติกส์ ได้แก่ ธุรกิจรับส่งเอกสารและสิ่งของ (Delivery) และธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ (Logistic) กลุ่มธุรกิจนี้ยังเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและได้รับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce
เนื่องจาก ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาซื้อ-ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้มีความต้องการบริการด้านขนส่งโลจิสติกส์มากขึ้นตามไปด้วย
3. ธุรกิจเวชภัณฑ์และแปรรูปสมุนไพร กลุ่มธุรกิจนี้มีปัจจัยหลักมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งในปี 2565 ทั่วโลกอาจต้องเผชิญกับเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วจึงมีความจำเป็นที่อาจต้องพึ่งพากลุ่มธุรกิจเวชภัณฑ์ และธุรกิจผลิต แปรรูปพืชสมุนไพรเพื่อบรรเทาและป้องกันสุขอนามัยของตนเองและครอบครัว
4. ธุรกิจด้านเทคโนโลยี ได้แก่ ธุรกิจจัดทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ธุรกิจจัดทำโปรแกรมเว็บเพจ ธุรกิจบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ
5. ธุรกิจรีไซเคิล (Recycling) กลุ่มธุรกิจนี้ได้รับอิทธิพลมาจากรูปแบบการประกอบธุรกิจให้ยั่งยืนด้วย ESG (Environmental, Social, and Governance) และ BCG (Bio, Green, and Circular) model
6. ธุรกิจเครื่องสำอาง ได้แก่ ธุรกิจค้าส่งเครื่องสำอางและธุรกิจค้าปลีกเครื่องสำอาง มีปัจจัยมาจากกระแสการดูแลสุขภาพ การดูแลตนเอง เพื่อเสริมภาพลักษณ์และสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง
7. ธุรกิจขายปลีกสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของการแข่งขันด้านพัฒนาอาหารสัตว์ให้มีคุณภาพสูงขึ้น และการทำการตลาดสินค้าราคาแพง (Premium) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า และเติมเต็มคุณค่าทางใจเมื่อเกิดการใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยง
8. ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ธุรกิจนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากการที่ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ
และ 10. ธุรกิจโฆษณา สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ส่งผลให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมทางการตลาดในพื้นที่สาธารณะได้ ทำให้การทำโฆษณาโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
โดยธุรกิจดาวเด่น 10 ธุรกิจ มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1.32 ล้านล้านบาท และมีธุรกิจคงอยู่ทั้งสิ้น จำนวน 49,117 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 482,576.70 ล้านบาท
แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากกระแสธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมแล้วความชื่นชอบและความถนัดเป็นอีกคุณสมบัติที่ต้องคำนึง เนื่องการลงทุนมีความเสี่ยง การลงทุนทำธุรกิจต้องมีรอบคอบให้มากที่สุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews