Home
|
เศรษฐกิจ

“พาณิชย์”เผยส่งออกใช้สิทธิ RCEP ไปเกาหลีใต้ได้

Featured Image
กระทรวงพาณิชย์ ชี้ ผู้ส่งออกไทยใช้สิทธิ RCEP ไปเกาหลีใต้ได้เพิ่มอีก1ประเทศ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป

 

นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯในฐานะผู้ดูแลการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form RCEP) และกำกับดูแลการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองโดยผู้ส่งออกที่ได้รับอนุญาต (Self-Certification by approved exporter) ภายใต้ความตกลง RCEP ได้เปิดให้บริการออก Form RCEP รวมถึงการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกที่ได้รับอนุญาตมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เพื่อให้ผู้ส่งออกไทยสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี

 

สำหรับการส่งออกไปยังประเทศสมาชิก RCEP ที่ความตกลงมีผลบังคับใช้ โดยเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 ความตกลง RCEP มีผลบังคับใช้กับประเทศสมาชิก 10 ประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา สปป.ลาว สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ แต่ขณะนี้มีประเทศสมาชิก RCEP ที่ได้ยื่นสัตยาบันสารเพื่อให้ความตกลงมีผลบังคับใช้เพิ่มเติมแล้ว 2 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ ที่ความตกลง RCEP จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 และมาเลเซีย ที่ความตกลง RCEP จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 18 มีนาคม 2565 ทั้งนี้ ยังขาดสมาชิกอาเซียน 3 ประเทศที่ RCEP ยังไม่มีผลบังคับใช้ คือ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเมียนมา

 

ขณะนี้กรมฯจึงได้เดินหน้าต่อเนื่อง โดยได้เปิดระบบที่เกี่ยวข้องกับการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าเพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมการส่งออกไปยังเกาหลีใต้เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ผู้ส่งออกไทยสามารถใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง RCEP สำหรับการส่งออกไปยังเกาหลีใต้ได้ทันทีที่ความตกลงมีผลบังคับใช้กับเกาหลีใต้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 และกรมฯ อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อขยายระบบให้ครอบคลุมการส่งออกไปยังประเทศมาเลเซียที่ RCEP กำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 18 มีนาคม 2565 ต่อไป

 

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ยังกล่าวด้วยว่า สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ FTAs ถือเป็นอาวุธสำคัญสำหรับการส่งออกและเป็นแต้มต่อให้แก่ผู้ประกอบการของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความตกลง RCEP เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการ

 

ทั้งในด้านกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าที่สามารถสะสมถิ่นกำเนิดสินค้าจากภาคี สมาชิก 14 ประเทศทำให้สินค้าได้คุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดได้ง่ายขึ้น การมีกฎถิ่นกำเนิดสินค้าเดียวกันในแต่ละสินค้าของประเทศสมาชิกที่ช่วยลดความยุ่งยากในกระบวนการผลิตเพื่อส่งออกไปยัง 14 ประเทศ และด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าด้วย Self-certification ที่ผู้ประกอบการสามารถรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองได้บนเอกสารทางการค้าหรือเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube