ดาวโจนส์ปิดลบ 518.17 จุด ขณะน้ำมัน WTI เพิ่มขึ้น 2.01 ดอลลาร์ ทองร่วงแตะ 1,804.10 ดอลลาร์/ออนซ์
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ก.พ.) ดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 500 จุดขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงกว่า 3.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2563 หลังจากบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นเฟซบุ๊กทรุดตัวลงกว่า 26% และฉุดหุ้นบริษัทเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียรายอื่น ๆ ดิ่งลงด้วย
ดาวโจนส์ปิดที่ 35,111.16 จุด ลดลง 518.17 จุด หรือ -1.45%
Nasdaq ปิดที่ 13,878.82 จุด ลดลง 538.73 จุด หรือ -3.74%
S&P500 ปิดที่ 4,477.44 จุด ลดลง 111.94 จุด หรือ -2.44%
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 90 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 7 ปีในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นจัดทั่วสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันและทำให้ความต้องการใช้เชื้อเพลิงปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการประชุมครั้งล่าสุด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.01 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 90.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.64 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 91.11 oดอลลาร์/บาร์เรล
ด้านสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 6.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,804.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
