Home
|
เศรษฐกิจ

ลูกจ้างเฮ!ลดเงินสมทบประกันสังคมเหลือ75บาท

Featured Image
ครม.ไฟเขียว ผู้ประกันตน ม.33 ลดส่งเงินสมทบประกันสังคมเหลือ เหลือ 75 บาท 2 เดือน

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม ซึ่งมีสาระสำคัญในการปรับลดอัตราการส่งเงินสมทบของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เป็นเวลา 2 เดือน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม

โดยในส่วนของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ประมาณ 31 ล้านคน ให้ส่งเงินสมทบในอัตรา ร้อยละ 0.5 หรือ 75 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน ในขณะที่นายจ้าง จำนวน 4.8 แสนราย ส่งเงินสมทบในอัตราร้อยละ 3 ซึ่งจะเป็นการช่วยลดภาระให้กับลูกจ้างและนายจ้าง 2.3 หมื่นล้านบาท ในขณะที่สิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนจะยังคงสิทธิไว้เช่นเดิม ถึงแม้ว่าจะมีการจ่ายเงินสมทบน้อยลงก็ตาม

พร้อมกันนี้ นายอนุชา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ในการขยายระยะเวลาการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประจำปี 2563 ออกไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 จากเดิมสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม พร้อมเห็นชอบปรับวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปี63 ของขสมก. จากเดิม 1,775.653 ล้านบาท เป็น 1,917.380 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังเห็นชอบการลดอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รอบปี 2564 ลงร้อยละ 90 ในส่วนของที่อยู่อาศัย,อาคารพาณิชย์,ที่ดิน เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม,ที่ดินว่างเปล่า,ที่ดินเพื่อการเกษตร และขยายเวลาการลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์ ที่มีมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาทลงเหลือร้อยละ 0.01 จากเดิมคิดอัตราร้อยละ 2 รวมถึงค่าจดจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 0.01 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งในส่วนนี้อาจจะทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาครัฐเสียรายได้จากค่าธรรมเนียมต่างๆ อยู่ที่ 4.1 หมื่นล้านบาท โดยจะให้ทางสำนักงบประมาณไปจัดสรรงบประมาณชดเชยให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามความเหมาะสมต่อไป

นอกจากนี้  คณะรัฐมนตรี เห็นชอบกรอบวงเงินในการเป็นเจ้าภาพจัดการจัดประชุมเอเปคในปี65 รวมทั้งสิ้น 3,283.10 ล้านบาท

ครม.เห็นชอบหลักการพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า พ.ศ. …. โดยปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมือเก่า พ.ศ.2564 โดยเพิ่มพื้นที่กรุงรัตนโกสินทร์จากเดิม 3 บริเวณ คือ กรุงรัตนโกสินทร์ชั้นใน กรุงรัตนโกสินทร์ชั้นนอก และบริเวณฝั่งธนบุรีตรงข้ามกรุงรัตนโกสินทร์ เป็น 4 บริเวณ โดยเพิ่มพื้นที่ส่วนขยายบริเวณที่ 4 คือพื้นที่ต่อเนื่องบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ชั้นนอกตั้งแต่แนวกึ่งกลางคลองรอบกรุง คือ คลองบางลำพู และคลองโอ่งอ่าง แนวกึ่งกลางแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศเหนือและทิศใต้ และแนวคลองผดุงกรุงเกษมฝั่งตะวันออก โดยมีมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญเช่น คลองผดุงกรุงเกษม วัดไตรมิตรฯ วังบางขุนพรหม (ธปท.) นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไขชื่อหน่วยงานในคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่าให้เป็นปัจจุบัน รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พ.ศ. 2561 อีกด้วย

ครม.อนุมัติงบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี65

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยอนุมัติงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติประจำปี 2565 วงเงินรวม 201,094 ล้านบาท แยกออกเป็นกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 198,891 ล้านบาท และงบประมาณบริหารงานของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) 2,203 ล้านบาท

นอกจากนี้ครม.ยังได้มอบหมายให้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติดำเนินการและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขในด้านบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค บริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี บริการสาธารณสุขสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน การสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อสร้างหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้กับบุคคลในพื้นที่ และบริการสาธารณสุขสำหรับบริการกรณีโรคโควิด-19 ในส่วนบริการตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อตามมาตรา 18 (14) แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 และควบคุมดูแลสปสช.ให้บริหารกองทุนให้เป็นไปตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย

ครม.ให้ต่างด้าวกลุ่ม MOU อยู่ต่ออีก 6 ด.

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ การขยายเวลาอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวที่มาทำงานตามข้อตกลง หรือ MOUจำนวน 434,784 คน ซึ่งวาระการจ้างงานครบ 2 ปี และอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ออกไปอีก 6 เดือน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานจะช่วยเหลือแรงงานทุกกลุ่มตามแนวทางที่เป็นไปได้โดยไม่ส่งผลกระทบเพื่อบรรเทาความเดือนร้อน

ครม.เห็นชอบปรับการจ่ายโบนัสพนักงานกองสลากฯ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายโบนัสพนักงานและลูกจ้างของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เชื่อมโยงกับผลการดำเนินงานตามระบบประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ โดยปรับให้สำนักงานสลากฯ เป็นรัฐวิสาหกิจในกลุ่มที่ 2 ประเภทที่จัดสรรโบนัสให้พนักงานได้เมื่อมีกำไรเพื่อการจัดสรรโบนัส เนื่องจากมีกำไรจากการดำเนินงาน จากเดิมเป็นรัฐวิสาหกิจในกลุ่มที่ 5 ประเภทจ่ายโบนัสพนักงานคงที่ โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่ผลการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2564 เป็นต้นไป

สำหรับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายโบนัสพนักงานและลูกจ้างของสำนักงานสลากฯ เชื่อมโยงกับผลการดำเนินงานตามระบบประเมิน
ผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจจะเป็นดังนี้ ผลการประเมินในระดับ 5 คะแนนหรือดีเยี่ยม จะได้รับวงเงินเพื่อจัดสรรโบนัสร้อยละ 11 ของกำไร แต่ไม่เกิน 8 เท่าของเงินเดือนหรือค่าจ้าง และลดหลั่นลงมาตามลำดับ เช่น 4 คะแนน หรือระดับ ดีมาก จะได้รับการจัดสรรโบนัสร้อยละ 10 ของกำไร แต่ไม่เกิน 6เท่าของเงินเดือน ระดับ 3 คะแนน หรือดี จะได้รับวงเงินจัดสรรโบนัสร้อยละ 9 ของกำไร แต่ไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือน ระดับ 2 คะแนนหรือพอใช้ จะได้รับเงินจัดสรรโบนัสร้อยละ 8 ของกำไร แต่ไม่เกิน 4 เท่าของเงินเดือน และระดับ 1 คะแนน หรือปรับปรุง จะได้รับวงเงินจัดสรรโบนัสไม่เกินร้อยละ 7 ของกำไร แต่ไม่เกิน 2 เท่าของเงินเดือน

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า สำนักงานสลากฯ เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีผลการดำเนินงานด้านการเงินที่ดีมาโดยตลอด ซึ่งเมื่อพิจารณา
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 5 ปี คือปี 2558-2562 พบว่า มีกำไรสุทธิเฉลี่ย 3,451 ล้านบาท และมีเงินนำส่งรายได้แผ่นดินเฉลี่ย 2,480 ล้านบาท สำหรับในปี 2562 สำนักงานสลากมีสินทรัพย์รวม 43,719 ล้านบาท หนี้สินรวม 29,494 ล้านบาท รายได้รวม 8,729 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายรวม 2,666 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,063 ล้านบาท นำส่งรายได้แผ่นดินจำนวน 4,933 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับระบบเดิม
เมื่อปี 2560-2562 พนักงานได้รับโบนัส 3.75 เท่าของเงินเดือนซึ่งเป็นระบบคงที่ ถ้าใช้ระบบใหม่

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพรายปี ให้แก่ผู้ประกอบกิจการสปา และกิจการนวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมความงาม เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยกิจการสปาเสียค่าธรรมเนียมปีละ 1,000 บาท และกิจการนวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมความงามเสียค่าธรรมเนียมปีละ 500 บาท เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพต้องปิดกิจการ มีรายได้ลดลง

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานว่า มีกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปีประเภทกิจการ

 

ครม.อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการหลายตำแหน่ง

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรม
เสนอการแต่งตั้งโฆษกกระทรวงและรองโฆษก ดังนี้ นายประสพ เรียงเงิน รองปลัด กระทรวงวัฒนธรรม เป็นโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม
และนางสาวเพชรรัตน์ สายทอง ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นรองโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมได้มีคำสั่ง วธ. ที่ 4/2564 เรื่อง การแต่งตั้งโฆษก และรองโฆษก แล้ว

พร้อมแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 2 ราย คือ นายสอาด ตรีพงษ์กรุณา นายแพทย์เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ดำรงตำแหน่ง, นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.63 และนางสายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กรมการแพทย์ ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.63

นอกจากนี้ ครม.แต่งตั้งนายสิทธินันท์ มานิตกุล ผู้อำนวยการกอง กองความมั่นคงภายในประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการประสานกิจการความมั่นคง สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.63 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

ครม.ยืดช่วยเกษตรกรชาวสวนลำไย ถึง 31 ม.ค.

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ที่ประชุมเห็นชอบ ขยายระยะเวลาการเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ตามมติคณะรัฐมนตรีเดิมซึ่งจะมีการจ่ายชดเชยให้กับเกษตรกรไร่ละ 2,000 บาทไม่เกินครัวเรือนละ 25 ไร่ ซึ่งหลังจากสิ้นสุดโครงการพบว่า ยังมีเกษตรกรอีกจำนวน 2,013 ครัวเรือน ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ จึงได้มีมติในการขยายระยะเวลาออกไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 โดยยังคงใช้งบประมาณเดิมจากที่ได้มีการอนุมัติไว้ก่อนหน้านี้ตามโครงการเดิม

นอกจากนี้ ยังรับทราบการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ของนายจุรินทร์ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อรองรับผลผลิตที่จะออกมากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมนี้ โดยได้มีการจับมือกับภาคเอกชนในการรับซื้อกระเทียมล่วงหน้าและการจัดหาตลาดเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม มีความเป็นห่วงในเรื่องของการลักลอบนำเข้ากระเทียมจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการกำชับให้ทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งกรมศุลกากร,ฝ่ายความมั่นคง เข้มงวดในการป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรทุกประเภท เพื่อเป็นการดูแลเกษตรกรในพื้นที่ไม่ให้ได้รับผลกระทบ

พร้อมกันนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบขยายระยะเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมโรงงาน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 3 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดยะลา,ปัตตานีนราธิวาส รวมถึง 4 อำเภอ ในจังหวัดสงขลา ประกอบด้วย อ.จะนะ, อ.สะบ้าย้อย,อ.เทพาและอ.นาทวี

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการสร้างอาชีพในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยการยกเว้นค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 สำหรับผู้ประกอบการในพื้นที่สนับสนุนการ ประกอบกิจการเพื่อสร้างอาชีพ โดยให้มีผลภายใน 15 วันหลังจากมีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้มีการขออนุญาตจำหน่ายสุรา,ยาสูบและไพ่ ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยให้มีการแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการเพิ่มช่องทางในการยื่นคำขอรวมถึงการพิจารณาของเจ้าพนักงานผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับการทำการค้า

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่ : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube