DITP แนะผู้ส่งออกเกาะติดเทรนด์บรรจุภัณฑ์ปี 65 นำปรับใช้ทำตลาดญี่ปุ่น เพิ่มโอกาสในการขายสินค้า
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ล่าสุดกรมฯ ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ถึงแนวโน้มของบรรจุภัณฑ์อาหารในตลาดญี่ปุ่น ที่เป็นที่ดึงดูดใจต่อผู้บริโภค เพื่อนำมาชี้แจงให้ผู้ส่งออกไทยได้รับรู้ และนำไปปรับใช้กับการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สินค้า เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกและขายสินค้าไทยในตลาดญี่ปุ่น
โดยเทรนด์ของบรรจุภัณฑ์ในตลาดญี่ปุ่นปี 2565 เช่น การมีดีไซน์แนว Minimal ที่ดูเรียบง่าย มีตัวอักษรน้อย และเลือกสี ทำให้ผู้เห็นรู้สึกผ่อนคลาย ดีไซน์บรรจุภัณฑ์ด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยหันมาใช้วัสดุแทนพลาสติกมากขึ้น เช่น กระดาษหรือพลาสติกย่อยสลายได้ สะท้อนแนวคิด “การบริโภคยึดจริยธรรม” ในบรรจุภัณฑ์ เช่น การลดวัสดุทำบรรจุภัณฑ์ให้น้อยลง เน้นดีไซน์ไม่เพียงแค่ด้านนอกแต่ใส่ใจการดีไซน์บรรจุภัณฑ์ด้านในด้วย และ ดีไซน์บรรจุภัณฑ์ที่มีมิติ (3 มิติ)
สำหรับสินค้าไทยที่จะวางจำหน่ายในญี่ปุ่น ฉลากสินค้าต้องมีการกำกับเป็นฉลากภาษาญี่ปุ่น ระบุข้อมูลผู้ผลิต ผู้นำเข้า ข้อมูลโภชนาการต่าง ๆ โดยหากบรรจุภัณฑ์ที่จะนำเข้ามาญี่ปุ่น เป็นบรรจุภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในต่างประเทศอยู่แล้ว เช่น กำกับเป็นภาษาไทย หรือภาษาอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่น จะมี 2 รูปแบบที่พบในการวางจำหน่ายในญี่ปุ่น คือ
การนำฉลากสติ๊กเกอร์ภาษาญี่ปุ่นแปะทับบนตัวบรรจุภัณฑ์โดยตรง
และ การพิมพ์เป็นฉลากภาษาญี่ปุ่นแทนภาษาต่างประเทศ
ในบางกรณีอาจจะมีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่เป็นภาษาญี่ปุ่นเลย ยกตัวอย่างสินค้าไทยที่เป็นที่นิยมในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นซอสปรุงรส ขนมขบเคี้ยว เครื่องปรุงอาหาร พริกแกงสำเร็จรูป หรือสินค้าพร้อมทานต่าง ๆ ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดญี่ปุ่น เห็นว่าแพคเกจจิ้งหรือบรรจุภัณฑ์มีความสำคัญสำหรับผู้บริโภค
นอกจากบรรจุภัณฑ์ที่ต้องมีการระบุเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้ว ยังต้องระบุสัญลักษณ์ประเภทวัสดุของบรรจุภัณฑ์นั้น ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถแยกขยะทิ้งได้อย่างถูกต้อง เช่น เป็นพลาสติก กระดาษ ขวด PET หรือวัสดุเผาไม่ได้อย่างอลูมิเนียม เป็นต้น และหากเป็นสินค้าอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน เช่น มัสมั่น ก็ต้องมีสัญลักษณ์ไมโครเวฟแสดงให้เห็น มีวิธีการอุ่น รวมถึงมาตรฐานที่ได้รับ เช่น ฮาลาล ออร์แกนิก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews