Home
|
เศรษฐกิจ

“จุรินทร์” ชวนญี่ปุ่นลงทุนไทยเพิ่มชูประโยชน์ RCEP

Featured Image
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชวนญี่ปุ่นลงทุนไทยเพิ่ม เร่งใช้ประโยชน์ RCEP ขณะส่งออกไทยไปญี่ปุ่นปี 64 โต 20%

 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการหารือทวิภาคี กับนายฮากิอูดะ โคอิจิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ว่า มูลค่าการค้าระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ในปี 2564 มีมูลค่ารวมกว่า 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 2 ล้านล้านบาท

 

โดยญี่ปุ่นถือเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 2 ของไทยรองจากจีน ตัวเลขการส่งออกของไทยไปญี่ปุ่นปี 2564 มีมูลค่ากว่า 24,985 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 8.74 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น รถยนต์ ไก่แปรรูป เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกล คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง

 

สำหรับการลงทุนของญี่ปุ่นในประเทศไทย ถือว่าญี่ปุ่นลงทุนมากเป็นลำดับที่หนึ่ง กว่า 6,000 บริษัท

โดยญี่ปุ่นแจ้งให้ทราบถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุนระหว่างเอเชียกับญี่ปุ่น เพื่ออนาคตหรือที่เรียกว่านโยบาย Japan Investing for the Future ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นนโยบายที่ญี่ปุ่นต้องการเข้ามาร่วมลงทุนกับภูมิภาคเอเชียให้มากขึ้น

 

โดยไทยหนึ่งในเป้าหมายที่ญี่ปุ่นต้องการเข้ามาลงทุนร่วมกัน มุ่งเน้นการลงทุนที่ใช้นวัตกรรม ซึ่งไทยยังต้องการการลงทุนของญี่ปุ่น แม้จะลงทุนเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว โดยอยากให้มาร่วมทุนกับนักลงทุนไทยมากขึ้น และขณะเดียวกันก็ขอให้ช่วยดูแลนักลงทุนไทยที่ไปลงทุนในญี่ปุ่นซึ่งมีมากกว่า 30 รายด้วย

 

สำหรับความร่วมมือ RCEP ที่บังคับใช้แล้ว ทำให้ญี่ปุ่นสามารถส่งออกได้มากขึ้น โดยเฉพาะชิ้นส่วนยานยนต์และอาหารสำเร็จรูป โดยสามารถใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ RCEP ได้มากขึ้น

 

โดยประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จาก RCEP ได้ในหลายสินค้า เช่น อาหารและสิ่งทอ โดยเฉพาะอาหารและสิ่งทอ ไทยส่งไปญี่ปุ่นและได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี ซึ่งเห็นพ้องกันทั้งสองประเทศ ว่าจะใช้สิทธิประโยชน์ RCEP ให้มากขึ้น จะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันในกลุ่มประเทศ RCEP 15 ประเทศ

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube