กสทช.ย้ำความสำคัญของ PDPA
กสทช.ตอกย้ำความสำคัญ PDPA ต่อธรรมาภิบาลอุตสาหกรรมสื่อสารไทย พร้อมสร้างแอพช่วยดูแลความปลอดภัยและสิทธิด้านข้อมูลของผู้ประกอบการ
ศาสตราจารย์ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวในการเปิดอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ว่า การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและการคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลเป็นดัชนีสำคัญที่สะท้อนถึงธรรมาภิบาลขององค์กรในศตวรรษที่ 21 ซึ่งอุตสาหกรรมด้านการสื่อสารที่อยู่ในการกำกับดูแลของสำนักงาน กสทช. มีการเก็บรวบรวม ประมวลผล และใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจำนวนมากเกือบเท่าประชากรทั้งหมดของประเทศ และยังเป็นข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตาม PDPA อย่างเคร่งครัด
ปัจจุบันสำนักงาน กสทช. ไม่ได้นิ่งเฉยต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชัน e-BCS Mobile เพื่อใช้ประกอบการยื่นเอกสารเกี่ยวกับการอนุญาตประกอบกิจการ รวมถึงตรวจสอบสถานะ การดำเนินการต่างๆ ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งผู้ประกอบการต้องมีการระบุตัวตน และต้องยืนยันตัวตนซ้ำ เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล โดยสำนักงาน กสทช. ได้คำนึงถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2562 และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงาน กสทช. เป็นหลัก
นายปริญญา หอมเอนก กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวว่า ปัจจุบันข้อมูลของประชาชนอยู่กับหน่วยงานภาครัฐจำนวนมาก แต่ขณะนี้หน่วยงานรัฐก็ต้องให้เหตุผลด้วยว่านำไปใช้เพื่อเหตุผลใด เนื่องจากกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งกฎหมายฉบับนี้จะเน้น 3 เรื่องหลัก คือ การเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูล แต่ในกฎหมายก็ได้เขียนข้อยกเว้น กรณีบุคคล นิติบุคคล หากเปิดเผยข้อมูลในกิจการสื่อมวลชน งานศิลปกรรม หรืองานวรรณกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะเท่านั้น อย่างไรก็ดีกฎหมายฉบับนี้ก็มีเรื่องการส่งเสริมสนับสนุนให้คำปรึกษาเพื่อให้ความรู้ในเรื่องนี้แก่สาธารณะด้วย
เหตุผลที่ควรมีกฎหมายฉบับนี้ เพราะโลกนี้มีร่องรอยทางดิจิตอลอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก ข้อมูลต่าง ๆ ถูกจัดเก็บอยู่ในแพลตฟอร์มที่แต่ละคนใช้งาน และแพลตฟอร์มเหล่านี้ก็อยู่ในต่างประเทศซึ่งเป็นผู้คิดค้น เท่ากับข้อมูลผู้ใช้งานถูกจัดเก็บอยู่ในต่างประเทศ สำหรับแอปพลิเคชันส่วนใหญ่ที่คนไทยใช้ประมาณ 95% เป็นของต่างประเทศ มีเพียงแอปพลิเคชันเป๋าตังค์ ที่ทำโดยคนไทย การใช้แอปพลิเคชันเหล่านี้แม้จะไม่เสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้งแอปพลิเคชันแต่ข้อมูลทั้งหมดที่ถูกจัดเก็บมีมูลค่า และถูกนำไปใช้ในทางการตลาด ฉะนั้นผู้ใช้จึงเสมือนเป็นผลิตภัณฑ์ ซึ่งในแต่ละวันที่ผู้ใช้มีความเคลื่อนไหวข้อมูลผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ก็ช่วยให้เจ้าของแพลตฟอร์มดำเนินธุรกิจต่อได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews