รมช.พณ.เผย งานTHAIFEX คู่ค้าต่างประเทศสนใจกาแฟไทย เร่งใช้FTA เพิ่มแต้มต่อดันส่งออกไปตลาดโลก
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการนำผู้ประกอบการกาแฟไทยชั้นนำ 11 ราย ประกอบด้วย Coffee Bean Roasting Hillkoff กาแฟขุนช่างเคี่ยน กาแฟจินตนามณีพฤกษ์ เฮือนฮังต่อ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟบ้านถ้ำสิงห์ The Coffeenery กาแฟเฉยเลย กาแฟลองเลย กลุ่มวิสาหกิจชุมชนโขงเข้มนครหงส์ และร้าน Chewin Coffee ร่วมแสดงสินค้าในบูธ FTA Cafe ของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
ในงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX – ANUGA ASIA 2022 “The Hybrid Edition” ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 24-28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการรวมถึงประชาสัมพันธ์ให้กาแฟไทยเป็นที่รู้จักในตลาดโลกมากขึ้น
โดยงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX – ANUGA ASIA 2022 “The Hybrid Edition” เป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับนานาชาติ ที่ช่วยสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการสินค้าเกษตรและอาหารของไทย
โดยในส่วนของสินค้ากาแฟ กระทรวงพาณิชย์ได้เลือกเฟ้นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพจากโครงการ “การเพิ่มศักยภาพกาแฟไทยในยุคการค้าเสรี” ที่กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ลงพื้นที่อบรมให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง มาเข้าร่วมแสดงสินค้า
ซึ่งปรากฏว่าได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี มีคู่ค้าทั้งจากไทยและต่างประเทศขอจับคู่ธุรกิจเป็นจำนวนมาก เช่น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนโขงเข้มนครหงส์ มีนักธุรกิจจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอินเดีย ให้ความสนใจเมล็ดกาแฟคั่ว
โดยเฉพาะเมล็ดโรบัสต้า ส่วน Hillkoff มีคู่ค้าจากอินเดียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต้องการนำเข้าเช่นกัน ขณะที่กาแฟจินตนามณีพฤกษ์ มีนักธุรกิจไทยต้องการติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์
โดยกระทรวงพาณิชย์ ให้ความสำคัญกับการยกระดับสินค้ากาแฟอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาความพร้อมตลอดห่วงโซ่การผลิตในอุตสาหกรรม จึงมอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ลงพื้นที่พบปะกลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมกาแฟในพื้นที่การผลิตสำคัญทั่วประเทศ
เพื่อติวเข้มการใช้ประโยชน์จากFTA กลยุทธ์การเจาะตลาดต่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งกรมฯ เชื่อมั่นว่าการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์กาแฟรูปแบบใหม่และพัฒนาคุณภาพให้มีมาตรฐาน จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันในตลาดพรีเมียมของต่างประเทศได้ ขณะที่เอฟทีเอจะช่วยสร้างแต้มต่อให้สามารถเข้าถึงตลาดได้โดยมีต้นทุนที่ต่ำลง
ทั้งนี้ กาแฟไทยนับว่ามีนวัตกรรมการผลิตที่ทันสมัย รสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยในช่วงไตรมาสแรกไทยส่งออกกาแฟสำเร็จรูป มูลค่า 27.07 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.85 จากปีก่อนหน้า
ขณะที่การส่งออกเมล็ดกาแฟดิบ มีมูลค่า 0.14 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง ร้อยละละ 36.36 และส่งออกเมล็ดกาแฟคั่ว มูลค่า 0.24 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง ร้อยละ 25 ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมา ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และแคนาดา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews