ก.แรงงานปล่อยกู้50ล้านช่วยลูกจ้าง,นายจ้าง
กระทรวงแรงงาน จัดงบ 50 ล้านปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ ผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ ช่วยลูกจ้างนายจ้างสู้วิกฤตโควิด-19 ดอกเบี้ย 1% ต่อปี
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อพี่น้องแรงงาน และสถานประกอบกิจการในทุกภาคส่วนของประเทศ และเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องแรงงาน และสถานประกอบกิจการ จึงสั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานหาแนวทางในการดำเนินการดังกล่าว
โดยขณะนี้ คณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน ได้มีมติเห็นชอบโครงการเงินกู้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้แรงงาน ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการ หรือรัฐวิสาหกิจ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุกดอกเบี้ยต่ำ
ด้าน นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน เพื่อผู้ใช้แรงงาน ได้จัดทำโครงการเงินกู้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีวงเงินงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อให้สหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการ หรือรัฐวิสาหกิจสหกรณ์ออมทรัพย์ในรัฐวิสาหกิจ สามารถยื่นคำขอกู้เงิน เพื่อนำไปให้บริการเงินกู้แก่ผู้ใช้แรงงานที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ ได้ไม่เกินแห่งละ 10 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 1.00 ต่อปี ระยะเวลาการส่งชำระคืนสูงสุดไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน และผ่อนส่งเงินต้น พร้อมดอกเบี้ยเงินกู้เป็นงวดรายเดือน
“สุชาติ”สั่งประกันสังคมเคลียร์เงินชราภาพ
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม มีข้อสงสัยเกี่ยวกับประเด็นข่าวในกรณี ผู้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรับเงินซ้ำซ้อนกับเงินบำนาญ หรือสวัสดิการอื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใด ในลักษณะเดียวกัน นั้น เพื่อให้ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพจากกองทุนประกันสังคม คลายข้อกังวลดังกล่าว จึงได้สั่งการให้นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมเร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ ให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเงินบำนาญชราภาพจากกองทุนประกันสังคม ยังสามารถรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้อีกด้วย
โดย นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้สั่งการให้นางสาวลัดดา แซ่ลี้ ผู้อำนวยการสำนักสิทธิประโยชน์ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานประกันสังคมชี้แจงถึงข้อสงสัยของผู้ประกันตนในกรณีนี้ว่า “แม้ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำนาญชราภาพจากกองทุนประกันสังคม ก็มิใช่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใด จากหน่วยงานของรัฐ ผู้ประกันตนดังกล่าว จึงเป็นผู้สูงอายุที่ไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามข้อ 6 (4) แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552” ดังนั้น ผู้ประกันตนที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพ จึงเป็นผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news