“จุรินทร์” เผย ไทยเปิดดีลการค้าซาอุฯ 12,200 ล้านบาท ลงนามซื้อขายสินค้า ฟื้นความสัมพันธ์ชวนลงทุนในไทย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยผู้แทนภาครัฐและเอกชน เปิดเผยภายหลังการพบหารือกับประธานสภาหอการค้าซาอุดีอาระเบีย และเปิดงาน Saudi-Thai Business Forum ว่า ที่ ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ประสบความสำเร็จ เพราะสามารถทำ MOU ร่วมกันระหว่างเอกชนของประเทศไทยกับสภาเอกชนของซาอุดีอาระเบีย โดยมีการจัดตั้งสภาธุรกิจไทย-ซาอุดีอาระเบียขึ้น และได้มีการลงนามMOUร่วมกันแล้ว
หลังจากนี้สภาธุรกิจไทย-ซาอุดีอาระเบีย จะขับเคลื่อนการเจรจาทางการค้าคาดการณ์ว่าสามารถทำการค้าร่วมกัน ซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ภายในหนึ่งปี และมีการทำสัญญาซื้อขายภายในระยะเวลาที่กำหนด อีก 10 คู่ ที่เมืองเจดดาห์และที่ริยาด มีมูลค่าทั้งหมดรวมกัน 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังกิจกรรมเจรจาซื้อขายทางธุรกิจ เจรจาซื้อขายจริงอีก 1,200 ล้านบาท รวมเป็น 12,200 ล้านบาท ที่เป็นรูปธรรมจากการเดินทางนำคณะภาคเอกชนมาซาอุดิอาระเบียครั้งนี้
โดยเฉพาะสินค้าอาหาร เครื่องปรุงรส ผักสด เครื่องแกง อาหารกระป๋อง อาหารทะเล ทูน่ากระป๋อง ซาดีนกระป๋อง ผลไม้กระป๋องและผลไม้สด รวมทั้งสินค้าอื่นๆที่ใช้วัตถุดิบทางการเกษตร ได้รับความสนใจ และเริ่มมีวางขายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในซาอุดีอาระเบียแล้วและถือว่าเป็นอาหารยอดนิยมของซาอุดีอาระเบียในอนาคตซาอุดีอาระเบียจะเป็นประตูในการกระจายสินค้าไทยไปกลุ่มประเทศตะวันออกกลางรวมทั้งกลุ่ม GCC กลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ 6 ประเทศด้วย
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ประเทศซาอุดีอาระเบียต้องการดึงนักลงทุนจากทั่วโลก เพื่อไปร่วมโครงการลงทุนขนาดใหญ่ใรซาอุดิอาระเบีย คือ โครงการ Saudi Vision 2030 โดยไทยก็สนใจให้นักลงทุนจากซาอุดีอาระเบียลงทุนที่ประเทศไทยเช่นกันเพราะมีหลายภาคส่วนที่เราต้องการนักลงทุนจากซาอุดีอาระเบีย โดยสามารถจับมือได้ทั้งการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวรวมทั้งภาคการผลิตอื่นๆด้วย
นอกจากนั้น นายจุรินทร์ ยังได้กล่าวบนเวที Saudi-Thai Business Forum ด้วยว่า ปัจจุบันโลกกําลังเผชิญกับปัญหาความท้าทายที่สําคัญยิ่ง คือความมั่นคงด้านพลังงานและด้านอาหาร จึงเป็นช่วงเวลาสําคัญที่สุดที่ทั้ง 2 ประเทศจะเร่งกระชับความเชื่อมโยง เพื่อเสริมศักยภาพของกันและกัน ในการเปลี่ยนความท้าทาย ให้เป็นความเข้มแข็งร่วมกัน โดยซาอุดีอาระเบีย จะแหล่งความมั่นคงทางพลังงานให้ประเทศไทย และประเทศไทยจะเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารให้ซาอุดีอาระเบีย
โดยนายจุรินทร์ได้เชิญชวนนักลงทุนชาวซาอุดีอาระเบียมาลงทุนในประเทศไทยโดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการค้าจาก FTA ที่ประเทศไทยทํากับ 18 ประเทศ 14 ฉบับ อาทิ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ฮ่องกง เปรู ชิลี RCEP และจะทําเพิ่ม เช่น EFTA และ UK และไทยยังมีศักยภาพเป็นประตูการค้าสู่อาเซียน และซาอุดีอาระเบียเป็นประตูการค้าสู่ตะวันออกกลาง ทั้งหมดคือโอกาสของชาติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
