Home
|
เศรษฐกิจ

รัฐบาลส่งเสริมการปลูกกาแฟไปได้สวย

Featured Image
รัฐบาลส่งเสริมการปลูกกาแฟไปได้สวย ก.เกษตรชูอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น เมล็ดพันธุ์อะราบิกาชนะประกวด กิโลละ 23,000 บาท

 

 

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลส่งเสริมการปลูกกาแฟ เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพพื้นที่เหมาะสมกับการปลูกกาแฟ จึงทำให้สามารถปลูกกาแฟในสายพันธุ์ที่ตลาดต้องการได้ทั้งพันธุ์อะราบิกาและพันธุ์โรบัสต้า

 

โดยเน้นให้เกษตรกรเลือกการปลูกกาแฟตามสายพันธุ์ที่เหมาะสมต่อพื้นที่เป็นหลัก และความคุ้นชินของเกษตรกร รวมถึงตลาดรับซื้อผลผลิตในพื้นที่ โดยทางกระทรวงเกษตรฯและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกำหนดแผนบริหารจัดการการผลิตกาแฟจากภาคเหนือจรดใต้ สร้างคุณภาพได้ครบวงจรตั้งแต่การผลิต การแปรรูป ถึงการตลาด ผลผลิตคุณภาพดีเป็นที่ยอมรับในระดับสากล สร้างรายได้ และความยั่งยืนแก่เกษตรกร  ซึ่งปัจจุบันกาแฟถือเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มแบบก้าวกระโดด

 

นางสาวรัชดา กล่าวว่า ล่าสุดเมื่อส.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯได้จัดงานประมูล 10 สุดยอดกาแฟไทย ปี 2565 ได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟระดับประเทศมาร่วมทดสอบรสชาติกาแฟ และคัดเลือกเมล็ดกาแฟที่เป็น 10 สุดยอดกาแฟไทยใน 4 ประเภทอย่างพิถีพิถัน รวมทั้งสิ้น 40 รายการ โดยเมล็ดกาแฟอะราบิกา ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในประเภทกระบวนการผลิตแบบกึ่งแห้ง (Semi-Dry / Honey Process) ของเกษตรกรจากจังหวัดน่าน

 

ซึ่งได้รับการประมูลมีมูลค่าสูงที่สุด คือกิโลกรัมละ 23,000 บาท ในขณะที่กาแฟอะราบิกาแบบเปียก หรือ Wet / Fully Wash Process มีมูลค่าการประมูลสูงสุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 3,050 บาท   ส่วนกาแฟอะราบิกาแบบแห้ง หรือ Dry Process มีมูลค่าการประมูลสูงสุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 5,050 บาท และกาแฟโรบัสต้า มีมูลค่าการประมูลสูงสุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 5,500 บาท

 

 

ทั้งนี้นางสาวรัชดา กล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการเกษตรดูแลเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟตลอดห่วงโซ่การผลิต เพื่อยกระดับคุณภาพกาแฟไทยให้มีอัตลักษณ์ของกาแฟเฉพาะถิ่น รวมถึงบูรณาการหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการ สถาบันการศึกษา และเกษตรกร

 

เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและสร้างการเกษตรยั่งยืนที่มีความทันสมัย ที่สำคัญ เกษตรกรต้องสามารถขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ทั้งนี้ ด้วยนโยบายการตลาดนำการผลิต ควบคู่กับการส่งเสริมให้เกษตรกรรวมตัวกันในรูปแบบแปลงใหญ่หรือวิสาหกิจชุมชนเพื่อนำผลผลิตกาแฟมาแปรรูปในรูปแบบกาแฟพร้อมดื่ม และสร้างแบรนด์สินค้าเพื่อให้เป็นที่รู้จัก

 

ปัจจุบันราคาเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูงมาก  ต่างจากที่ก่อนหน้านี้ราคาเมล็ดกาแฟถูกมาก   และมีแปลงใหญ่หลายแห่งประสบความสำเร็จ สามารถสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เช่น กาแฟเขาทะลุ กาแฟถ้ำสิงห์ หรือกาแฟกระบี่ เป็นต้น

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube