ครม.โยกงบฟื้นฟู35,000ล.ไปกรอบเยียวยาโควิด
ครม.เทงบ 37,100 ล้านบาท อนุมัติโครงการม.33 เรารักกัน พร้อมโยกวงเงินจากกรอบการฟื้นฟู 35,000 ล้านบาท มาไว้ที่กรอบการเยียวยา
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ที่ประชุมเห็นชอบ โครงการม.33 เรารักกันเพื่อช่วยเหลือเยียวยาแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด – 19 โดยรัฐบาลจะจ่าย เยียวยา รายละ 4,000 บาท กรอบวงเงิน 37,100 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีผู้ประกันตนมาตรา 33 เข้าข่ายมีสิทธิได้รับเงินเยียวยาในครั้งนี้ 9.27 ล้านคน
สำหรับคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ จะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ในระบบประกันสังคม ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและไม่ได้รับสิทธิโครงการเราชนะ และไม่มีเงินฝากในสถาบันการเงินรวมกันเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 ธ.ค.63
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบการโยกเงินจากกรอบการฟื้นฟู 35,000 ล้านบาท มาไว้ที่กรอบการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีกรอบวงเงินจากกรอบช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูรวม 41,246 ล้านบาท และหากหักโครงการ ม.33 เรารักกันจะส่งผลให้มีเงินเหลือ 4,146 ล้านบาท ส่วนกรอบที่ 1 ด้านการแพทย์จะมีงบเหลือ 25,300 ล้านบาท และวงเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจ 221,878 ล้านบาท และหากรวม 3 กรอบวงเงินจะรัฐบาลจะเหลือกรอบเงินกู้ที่ใช้ได้ 251,327 ล้านบาท
ครม.อนุมัติกำหนดจำนวนการจ้างงานคนพิการ ของสถานประกอบการและหน่วยงานรัฐ
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการแก้ไขกฎกระทรวงกำหนดจำนวนคนพิการที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐจะต้องรับเข้าทำงาน และจำนวนเงินที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้องนำส่งเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2554 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งระบุว่า นายจ้างที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไปซึ่งไม่นับรวมลูกจ้างคนพิการที่มีอยู่เดิม ต้องรับคนพิการเข้าทำงานไม่ว่าอยู่ในตำแหน่งใด จำนวน 1 คน ต่อลูกจ้าง 100 คน ถ้าเศษของ 100 คนนั้นเกิน 50 คน จะต้องรับคนพิการเพิ่มอีก 1 คน
หากผู้ประกอบการไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขนี้ได้ ก็จะต้องส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามเงื่อนไขที่กำหนดและต้องดำเนินการภายใน 45 วัน นับตั้งแต่วันที่ไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข ซึ่งการแก้ไขกฎกระทรวงครั้งนี้ เป็นการขยายระยะเวลาการนำส่งเงินเข้ากองทุนฯจากเดิมภายใน 45 วัน เป็น ภายใน 90 วัน และให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 64 เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของนายจ้างและเจ้าของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news