ชัดเจนที่สุดหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ออกมาประเมินภาวะเศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะขยายตัวเหลือเพียงร้อยละ 2.7 จากในปีนี้ที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 3.2 เป็นสัญญาณการถดถอยของเศรษฐกิจโลกที่ชัดเจน แน่นอนว่าเมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเศรษฐกิจไทย ซึ่งพึ่งพาการส่งออกอาจได้รับผลกระทบ
ล่าสุดนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน ด้านการพาณิชย์ หรือ กรอ.พณ. นัดพิเศษ โดยที่ประชุมได้มีการประเมินผลกระทบที่จะมีต่อการส่งออกของประเทศในปีหน้า จากปัจจัยเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไม่คลี่คลาย รวมถึงนโยบาย Zero-Covid ของประเทศจีน ซึ่งจะมีผลต่อการส่งออกสินค้าไทยรวมถึงจำนวนท่องเที่ยว และสถานการณ์ค่าเงินบาทซึ่งเวลานี้ยังมีความผันผวนโดยค่าเงินบาทที่อ่อนค่า จะมีผลต่อต้นทุนการนำเข้าสินค้าทุน ที่นำเข้ามาผลิตเพื่อการส่งออกของไทย ทำให้มีต้นทุนสูงขึ้น
ที่ประชุมจึงให้ตั้งวอร์รูม กรอ.พณ. โดยมีตัวแทนของทั้งภาครัฐและเอกชนทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดดูแลภาคการส่งออกในปีหน้า ทำให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยมีเป้าหมายบุกตลาดศักยภาพสำคัญในปีหน้า จำนวน 3 ตลาด ประกอบด้วย ตะวันออกกลาง เอเชียใต้และ CLMV ตั้งเป้าขยายการค้าเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านล้านบาทในปีหน้า จากปัจจุบันที่ 1.7 ล้านล้านบาท
โดยในตะวันออกกลาง เน้น 3 ประเทศหลัก คือ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ กาตาร์ ตั้งเป้าขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 20 จากมูลค่าการค้าในปัจจุบัน โดยตลาดตะวันออกกลางถือเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและมีความต้องการนำเข้าสินค้าไทยอย่างต่อเนื่อง ตลาดเอเชียใต้ เน้น ประเทศอินเดีย บังคลาเทศและเนปาล ตั้งเป้าการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และ CLMV ตั้งเป้าขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-15
นอกจากนี้ ยังได้มีแผนที่จะผลักดันการเจรจา Mini Fta เพิ่มขึ้นอีก 3 ตลาดหลัก เพื่อเพิ่มยอดการค้าในเมืองสำคัญ ทั้งในสหราชอาณาจักร ที่ล่าสุด FTA กรอบใหญ่ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร Mini Fta กับเมืองลาฮอร์ ของปากีสถาน และกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ หรือ GCC เพิ่มเป้าการเจรจาเป็นรายประเทศ เพื่อให้มีความคืบหน้าเร็วที่สุด เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีแผนการเจรจาอยู่แล้ว 7 เมือง
ซึ่งตัวเลขการส่งออกในปีหน้านั้นกระทรวงพาณิชย์จะมีการประชุมเพื่อประเมินร่วมกับภาคเอกชนอย่างเป็นทางการในโอกาสต่อไป โดยเวลานี้ยังไม่อยากประเมินว่าตัวเลขการส่งออกจะปรับตัวลดลงอยู่ในระดับใด แต่ตัวเลขชะลอตัวลงแน่นอน ตามเศรษฐกิจของคู่ค้าที่ปรับตัวลดลง
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ภาคเอกชนพร้อมให้ความร่วมมือในเรื่องของการผลักดันการส่งออกร่วมกับกระทรวงพาณิชย์อย่างเต็มที่ ซึ่งต้องยอมรับว่าการส่งออกในปีหน้านั้น ต้องเผชิญกับความท้าทาย โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว มีผลโดยตรงกับการขยายตัวของการส่งออกไทย ซึ่งภาคเอกชนมองว่า การส่งออกในปีหน้าจะขยายตัวต่ำ และการส่งออกจะลดลงตั้งแต่ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้
โดยทางหอการค้าไทย มีเป้าหมายในการขยายโอกาสและสร้างตลาดใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ โดยเป็นประเทศยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับการค้าไทย คือ ซาอุดีอาระเบีย จีน อินเดีย เวียดนาม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการเปิดตลาดศักยภาพใหม่ซึ่งประกอบไปด้วยตะวันออกกลาง เอเชียใต้และCLMV โดยมั่นใจว่าแผนดังกล่าวจะสามารถประคับประคองการส่งออกของไทยให้ยังสามารถขยายตัวได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews