ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยแผนปี 66-68 ส่งเสริมตลาดทุนไทย ดึงดูดอุตสาหกรรมใหม่ พร้อมเชื่อมระบบนิเวศการลงทุนปัจจุบันกับอนาคตอย่างครบวงจร
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยแผนกลยุทธ์ระยะ 3 ปี (2566-2568) ขยายการเติบโตไปพร้อมกัน ทั้งธุรกิจ อุตสาหกรรมตลาดทุน สังคม และประเทศ เพื่อสร้างโอกาสที่มากกว่าเพื่อทุกคน (Growth for Business, Industry, Society) โดยมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกลาง เชื่อมระบบนิเวศการลงทุนในตลาดทุนปัจจุบันกับการลงทุนแห่งอนาคต ทำให้ตลาดทุนเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้ประกอบการและผู้ลงทุน ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่าง ครอบคลุมตั้งแต่เป็นแหล่งระดมทุนสำหรับภาคธุรกิจทุกขนาดและเดินหน้าเชิงรุกดึงดูดอุตสาหกรรมใหม่ (new economy)
รวมทั้งสนับสนุนการระดมทุนผ่านการออกโทเคนดิจิทัล และออกผลิตภัณฑ์ที่ใช้เงินลงทุนจำนวนน้อย ไปจนถึงการศึกษาความเป็นไปได้ในการออกผลิตภัณฑ์การลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม (environment-linked) ควบคู่กับการส่งเสริมการพัฒนาความรู้ด้านการเงินของคนไทย นอกจากนี้ ยังมุ่งขับเคลื่อนความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องทั้งภายในและภายนอกองค์กรผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อให้ตลาดทุนและเศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตได้อย่างสมดุลและยั่งยืน
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วทั้งเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค ความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุน และความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลกจากภาวะเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งใน 3 ปีข้างหน้านี้ (2566-2568) ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมุ่งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย ควบคู่ไปกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล เพื่อให้ตลาดทุนเป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ตามวิสัยทัศน์ตลาดหลักทรัพย์ฯ “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone” ผ่านกลยุทธ์ 4 ด้าน ดังนี้
ด้านที่ 1: ทำตลาดทุนให้เป็นเรื่องง่าย (Make fundraising & investment simple) เพิ่มโอกาสการระดมทุน โดยมุ่งส่งเสริมให้ธุรกิจทุกขนาดทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ เข้ามาใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้ง่ายขึ้นและมากขึ้น โดยเฉพาะการสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ตั้งแต่กระบวนการให้ข้อมูลและเตรียมความพร้อมให้กับธุรกิจที่มีศักยภาพ และจะมุ่งพัฒนาเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ต่อยอดจาก LiVE Academy และ LiVE Platform เพื่อให้มีความพร้อมในการเข้าถึงแหล่งระดมทุนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ จะพัฒนาศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (Thai Digital Assets Exchange: TDX) เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายโทเคนดิจิทัลทั้ง investment token และ utility token ในไตรมาส 3/2566
เพิ่มโอกาสการลงทุน มุ่งเพิ่มความหลากหลายด้วยผลิตภัณฑ์ที่ใช้เงินลงทุนไม่มากสำหรับผู้ลงทุนรายเล็ก รวมทั้งศึกษาการออกผลิตภัณฑ์ลงทุนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (environment-linked) และการขยายเวลาซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อเพิ่มความสะดวกในการลงทุน เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการเปิดบัญชีลงทุนเพื่อสร้างโอกาสการเข้าถึงตลาดทุนที่ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการพัฒนาแพลตฟอร์มของ Settrade เพื่อเป็น “Capital Market Super App” ในการเชื่อมต่อโอกาสการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านที่ 2: ยกระดับมาตรฐานเพื่ออุตสาหกรรม (Move industry & ecosystem with standard) พัฒนาระบบซื้อขายใหม่ภายในไตรมาส 1/2566 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบนิเวศการลงทุน และรองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ ๆ พร้อมยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ร่วมกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม รวมทั้งปรับปรุงกฎเกณฑ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย และให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไปและระบบซื้อขายใหม่
ด้านที่ 3: ร่วมสร้างโอกาสเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัด (Match partners for synergy) พัฒนาการเผยแพร่ข้อมูลผ่าน SMART Marketplace เพิ่มข้อมูลและฟังก์ชันที่ใช้ในการวิเคราะห์เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน รวมทั้งต่อยอดงานวิจัยแบบ Thematic และ Issue-based เพื่อให้สามารถนำไปใช้ได้จริงในการพัฒนาตลาดทุนด้านต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน จะมีการรวบรวมข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ของบริษัทจดทะเบียนมาไว้บน ESG Data Platform โดยเริ่มเผยแพร่ข้อมูลได้ในไตรมาส 2/2566 นอกจากนี้ จะพัฒนาการจัดทำ ESG Ratings เพื่อสนับสนุนการออกสินค้า ESG-Linked
ด้านที่ 4: ยึดหลักความยั่งยืนเป็นแกนขับเคลื่อนการทำงาน (Merge ESG with substance) ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้นำมิติด้าน ESG ขับเคลื่อนการดำเนินงานทั้งกระบวนการภายใน และภายนอกองค์กรโดยทำงานร่วมกับพันธมิตร นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งหวังว่าการดำเนินกลยุทธ์ 4 ด้านดังกล่าวจะมีส่วนในการสร้างโอกาสที่มากกว่าสำหรับผู้เกี่ยวข้องกลุ่มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขยายโอกาสการระดมทุนและการลงทุนสำหรับผู้ประกอบการและผู้ลงทุน การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมตลาดทุน และดูแลสังคม ควบคู่กับสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตที่สมดุล และยั่งยืนไปพร้อมกันทั้งธุรกิจ ตลาดทุน เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และประเทศชาติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews