น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งกับนโยบายพรรคการเมืองที่เชื่อมโยงกับการเลือกตั้ง เพราะตามสมการช่วงจังหวะเวลา ที่ว่ากันว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้น คือช่วงเดือนพฤษภาคม 2566
ทั้งนี้ กระแสโหมโรงหาเสียงเพื่อช่วงชิงมวลชลมีเพิ่มขึ้น ล่าสุด “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 และ “ลุงป้อม” ยังได้ชูนโยบายบัตรประชารัฐฯ 700 บาทต่อเดือน เพิ่มจากปัจจุบันที่ 200 บาทต่อเดือน ซึ่งนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน คาดว่า จะเห็นการออกนโยบายพรรคอื่นๆ ที่เน้นประชานิยมเข้มข้นขึ้น
สำนักข่าว “ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย “นายธนวรรธน์ พลวิชัย” ถึงนโยบายประชานิยมของพรรคการเมือง โดย “นายธนวรรธน์” กล่าวว่า เป้าหมายใหญ่ของนโยบายประชานิยม คือ เป็นนโยบายที่ให้คนชอบ โดนใจ ประชาชนได้ประโยชน์เร็ว โดยพรรคการเมืองมุ่งหวังให้ถูกเลือกในการเลือกตั้ง
“นายธนวรรธน์”กล่าวอีกว่า จากนี้ไปทุกพรรคการเมืองจะแข่งขันในเชิงนโยบาย โดยมีเป้าหมายใหญ่คือ ทำให้ประชาชนเลือก เพื่อครองคะแนนเสียงข้างมาก และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญของนโยบายประชานิยม คือ พรรคการเมืองจะต้องตอบคำถามให้ได้ว่า นโยบายดังกล่าวนั้น ใช้งบประมาณเท่าไร แหล่งเงินนั้นมาจากที่ใด ทำให้ฐานะการคลังเป็นอย่างไร ถ้าพรรคการเมืองไหน ไม่สามารถตอบได้ ถือว่ามีความสุ่มเสี่ยง
และนี่เป็นมุมมองที่น่าสนใจต่อนโยบายประชานิยม ที่พรรคการเมืองจะชูในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งจากนี้ต่อไปจะต้องติดตามการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆโดยเฉพาะมาตรการเศรษฐกิจของพรรคการเมือง เพราะเชื่อแน่ว่า จะเข้มข้น ดุเด็ด เผ็ดมันส์แน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
