สนค.ชี้ วิกฤตรัสเซีย ยูเครน ปัจจัยเสี่ยงกดดันเศรษฐกิจและการค้าโลก ขณะส่งออกไทยอ่วม
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 333 วันที่ผ่านมานับตั้งแต่รัสเซียเข้าไปปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวิกฤตการณ์ในครั้งนี้เป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบรุนแรงที่สุดต่อเศรษฐกิจโลกในปี 2565 และยังส่งผลกระทบสืบเนื่องมาจนถึงขณะนี้
โดยธนาคารโลกประเมินว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2565 จะขยายตัว 2.9% ซึ่งชะลอลงอย่างมากจากที่ขยายตัว 5.9% ในปี 2564 และต่ำกว่าคาดการณ์เมื่อต้นปีก่อนเกิดวิกฤตในยูเครนที่ 4.1% และนับจากนี้เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัวที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น บ่งชี้จากดัชนี PMI ภาคการผลิตโลกจนถึงเดือน ธ.ค. 65
ที่ชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และอยู่ในภาวะหดตัวติดต่อกัน 4 เดือน และสอดคล้องกับที่ธนาคารโลกคาดการณ์ล่าสุดว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2566 จะขยายตัวเพียง 1.7% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดในรอบกว่า 30 ปี หากไม่นับวิกฤตการเงินโลกในปี 2552 และปี 2563 ที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ขณะที่การค้าโลกที่จะขยายตัวเพียง 1.6%
การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชัดเจนขึ้นในช่วงปลายปี 2565 เริ่มแสดงให้เห็นถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศที่มีสัดส่วนพึ่งพาภาคต่างประเทศสูง หรือพึ่งพาการส่งออกมาก อย่างเช่นไทยที่การส่งออกสินค้าหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 20 เดือน โดยหดตัวต่อเนื่องติดต่อกันในเดือน ต.ค. และ พ.ย. 65 เช่นเดียวกับประเทศ อื่น ๆ
ในภูมิภาคที่การส่งออกมีทิศทางชะลอตัวลง และตราบใดที่วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนยังยังคงดำเนินต่อไป ก็จะยังคงเป็นความเสี่ยงสำคัญที่กดดันเศรษฐกิจและการค้าโลกที่อยู่ในภาวะชะลอตัวให้อ่อนแอลงไปอีก และจะส่งผลกระทบต่อเส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ในฐานะประเทศที่พึ่งพาภาคต่างประเทศในระดับสูง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews