Home
|
เศรษฐกิจ

“อาคม” ชี้ BCG Model ต่อยอดจุดแข็งไทย

Featured Image
รัฐมนตรีฯคลัง เผย BCG Model ต่อยอดจุดแข็งไทย ขณะธ.ก.ส. ยกระดับรายได้เกษตรกร เติมทุน 30,000 ล้านบาท ชูสวนส้มปรีชาฝาง ต้นแบบการดำเนินธุรกิจ

 

 

 

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ประเทศไทยติดกับดักรายได้ปานกลางมาอย่างยาวนาน รัฐบาลโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้วางยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนประเทศ โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยไปสู่รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า BCG Economy Model

 

ซึ่งจะช่วยต่อยอดจุดแข็งของประเทศให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ทั้งในด้านความหลากหลายทางชีวภาพและความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยอาศัยกลไกวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าสูง และเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจจาก “ทำมากแต่ได้น้อย” ไปสู่ “ทำน้อยแต่ได้มาก” ประกอบด้วย

 

B: Bio Economy ระบบเศรษฐกิจชีวภาพ มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่า ทดแทนการใช้สารเคมี C: Circular Economy ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่คำนึงถึงการนำวัสดุต่าง ๆ กลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด และทั้ง 2 เศรษฐกิจนี้ อยู่ภายใต้ G : Green Economy ระบบเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งมุ่งแก้ไขปัญหามลพิษ เพื่อลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่มุ่งส่งเสริมการเติบโตโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

 

 

ทั้งนี้ในส่วนของ ธ.ก.ส. มีนโยบายชัดเจนที่จะยกระดับรายได้เกษตรกร โดยการปรับเปลี่ยนการผลิตไปสู่พืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง มีการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีมาต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิต ควบคู่กับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม มีการเชื่อมโยงเครือข่ายเข้ามาช่วยสนับสนุนทั้งด้านความรู้และด้านการตลาด ซึ่ง ธ.ก.ส. พร้อมเติมทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำ ผ่านสินเชื่อในรูปแบบต่าง ๆ สร้างโอกาสให้เกษตรกร ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่สามารถเติมเต็มศักยภาพในการผลิตและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

 

ขณะที่ นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า สวนส้มปรีชาฝาง จ.เชียงใหม่ ถือเป็นต้นแบบ SMEs เกษตรที่มุ่งดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลัก BCG โมเดล ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิต สร้างงาน สร้างรายได้ที่ยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายของ ธ.ก.ส. ทั้งนี้ ธ.ก.ส. พร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการด้านการเกษตรที่มีเป้าหมายในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

 

รวมถึงการลงทุนที่ตอบโจทย์ในการดูแลสิ่งแวดล้อม ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายมากขึ้น ผ่านสินเชื่อเสริมแกร่ง SME เกษตร วงเงิน 30,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนหรือลงทุนในการประกอบธุรกิจ โดยสามารถติดต่อขอใช้บริการสินเชื่อได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Call center 02 555 0555

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube