สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีฯ เผย ส่งออกอัญมณี ปี 65 โต 29.54% จับตาปี 66 เศรษฐกิจสหรัฐฯ อียู เข้าสู่ภาวะถดถอย ต้องเร่งพลิกเกม
นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดเผยว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ ไม่รวมทองคำ ในปี 2565 มีมูลค่า 7,987.50 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 29.54 และหากรวมทองคำ มีมูลค่า 15,057.70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 49.82
โดยปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับทั้งปี 2565 เติบโตได้ดี มาจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประเทศคู่ค้าที่สำคัญปรับเปลี่ยนนโยบายกลับคืนสู่ภาวะปกติ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการได้เป็นปกติ ทำให้การผลิตของโลกและกำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และช่วงกลางปี มีการผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น สร้างบรรยากาศในการใช้จ่ายสินค้าในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น และยังได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน แต่ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การขาดแคลนพลังงาน เงินเฟ้อสูงในหลายประเทศ อัตราดอกเบี้ยอยู่ในทิศทางขาขึ้น เป็นปัจจัยฉุดรั้งต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งกลายเป็นปัจจัยที่เริ่มส่งผลต่อการค้าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 โดยตลาดส่งออกสำคัญในปี 2565 ที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ สหรัฐฯ เพิ่ม ร้อยละ 21.51 อินเดีย เพิ่มร้อยละ 74.38 ฮ่องกง เพิ่มร้อยละ 16.26
สำหรับแนวโน้มการส่งออกในปี 2566 ยังคงต้องจับตาปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่ยังคงมีอยู่ ปัญหาราคาพลังงาน เงินเฟ้อที่หลายประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยเริ่มเห็นได้ชัดตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเริ่มชัดเจนในปี 2566 ทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) ที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ตลาดทางฝั่งเอเชีย ทั้งจีน ญี่ปุ่น อินเดีย และอาเซียน จะยังเติบโตได้ดี
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่พึ่งพาตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ และอียู จะต้องปรับตัวโดยมุ่งเน้นเจาะตลาดด้วยดีไซน์ที่ตรงใจและงานฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งใช้จุดขายการรักษ์โลก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นกระแสที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ และต้องมองหาโอกาสจากตลาดที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างจีน ญี่ปุ่น อินเดีย ตะวันออกกลาง และอาเซียน จะเป็นอีกช่องทางให้ธุรกิจไปต่อได้ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนเช่นนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews